ปิดจ็อบคดีบาร์เซโลนา-แคมบริลส์ ตำรวจสเปนรวบ-ยิงทิ้งแก๊งรถตู้ไล่ชนคน

เอเจนซีส์ – ตำรวจสเปนเผยผู้ต้องสงสัยในเหตุก่อการร้ายในบาร์เซโลนาและแคมบริลส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทั้ง 12 คน ทั้งหมดถูกจับกุมหรือเสียชีวิตแล้ว โดยที่รายล่าสุดคือ “ยูเนส อาบูยาคูบ” ที่เป็นคนขับรถตู้พุ่งชนคนในบาร์เซโลนาและเป็นคนเดียวที่หนีรอดนั้นถูกวิสามัญฯ เมื่อวันจันทร์ (21 ส.ค.) หลังตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้พบเห็น

ทางการสเปนเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ต้องสงสัย 4 คนถูกจับกุม ที่เหลืออีก 8 คนเสียชีวิตจากการวิสามัญฆาตกรรมของตำรวจ และจากเหตุระเบิดในบ้านหลังหนึ่งที่ถูกใช้เป็นสถานที่ทำระเบิดในเมืองชายทะเลอัลคานาร์

โจเซฟ หลุยส์ ทราเปโร ผู้บัญชาการตำรวจคาตาลันยืนยันว่า ในกลุ่มที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดเมื่อคืนวันพุธ (16 ส.ค.) มีคนที่เป็นหัวโจกสำคัญของขบวนการนี้อย่าง อับเดลบากี เอส แซตตี อิหม่ามโมร็อกโกรวมอยู่ด้วย

หลังจากถูกควบคุมตัวมา 4 วัน ผู้ต้องสงสัยที่ยังมีชีวิตอยู่ 4 ราย ซึ่งประกอบด้วยชาวโมร็อกโก 3 คน และพลเมืองเมลิญา ซึ่งเป็นดินแดนของสเปนในแอฟริกาเหนือ จะไปปรากฏตัวที่ศาลก่อการร้ายพิเศษที่มาดริดในวันอังคาร (22 ส.ค.) ซึ่งผู้พิพากษาจะวินิจฉัยว่า จะตั้งข้อหาบุคคลเหล่านี้หรือไม่

นอกจากนั้น หลังจากตามล่าตัวนานห้าวัน ในที่สุดเมื่อเย็นวันจันทร์ ตำรวจก็สามารถวิสามัญอาบูยาคูบ หนุ่มโมร็อกโกวัย 22 ปีที่เป็นผู้ขับรถตู้พุ่งชนคนบนถนนลาสแรมบลาสในบาร์เซโลนา

ตำรวจเผยว่า พบอาบูยาคูบ ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายเดียวที่ยังลอยนวล หลบซ่อนอยู่ในไร่องุ่นในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองซันต์ ซาดูร์นี ห่างจากทางตะวันตกของบาร์เซโลนาราว 60 กิโลเมตร หลังได้รับแจ้งจากพนักงานคนหนึ่งในปั๊มน้ำมันแถวนั้น

รายงานระบุว่า ตำรวจตัดสินใจยิงใส่ผู้ต้องหารายนี้ หลังจากที่เขาชูสิ่งที่คล้ายเข็มขัดระเบิด และตะโกนสรรเสริญพระเจ้า อย่างไรก็ตาม หลังจากส่งหุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดไปตรวจสอบที่ร่างอาบูยาคูบ ตำรวจจึงพบว่า เข็มขัดระเบิดเป็นของปลอม

เมื่อวันจันทร์ ทางการสเปนปรับตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 15 คน หลังยืนยันว่า โป เปเรซ ชายหนุ่มวัย 34 ปีที่ถูกแทงเสียชีวิตในรถฟอร์ด โฟกัสนอกบาร์เซโลนาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (18 ส.ค.) เป็นเหยื่อของอาบูยาคูบ

เจ้าหน้าที่สอบสวนเชื่อว่า อาบูยาคูบอาศัยช่วงชุลมุนหลังขับรถพุ่งชนคนเมื่อค่ำวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) เดินปะปนกับผู้คนออกมาจากที่เกิดเหตุ ก่อนไปขโมยรถจากเปเรซเพื่อใช้หลบหนี โดยทางตำรวจได้ระดมยิงหลังจากรถคันดังกล่าววิ่งฝ่าจุดตรวจหลังเหตุก่อการร้ายในบาร์เซโลนาไม่นาน และในเวลาต่อมาก็พบศพเปเรซในรถ

ความพยายามในการเปิดโปงขบวนการก่อการร้ายนี้นำพนักงานสอบสวนไปยังริโปลล์ เมืองเล็กๆ ติดชายแดนที่เชิงเขาพีเรนีส ซึ่งเป็นเมืองที่เชื่อกันว่า เป็นสถานที่ที่แซตตี้ อิหม่ามวัย 40 ปี ล้างสมองวัยรุ่นให้ฝักใฝ่ลัทธิสุดโต่ง ในจำนวนนี้รวมถึงสองพี่น้อง ยาเนส และฮุสเซน อาบูยาคูบ โดยฮุสเซนและลูกพี่ลูกน้องอีกคนคือ โอมาร์ ไฮชามี ถูกวิสามัญในแคมบริลส์

ตำรวจเผยว่า อิหม่ามผู้นี้เคยถูกจำคุกและเคยติดต่อกับผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ก่อการร้าย แต่ไม่เคยถูกตั้งข้อหาเกี่ยวพันกับการก่อการร้ายแต่อย่างใด

ที่เบลเยียม นายกเทศมนตรีวิวอร์เดอเผยว่า แซตตีเคยไปกบดานในย่านเมเชเลน ติดกับสนามบินในเมืองบรัสเซลส์ ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมปีที่แล้ว

ทราเปโรระบุเมื่อวันอาทิตย์ (20 ส.ค.) ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นนักรบญิฮาดเหล่านี้กำลังเตรียมการโจมตีบาร์เซโลนาด้วยระเบิด หลังค้นพบถังแก๊ส 120 ถังและร่องรอยระเบิดแบบผลิตเอง TATP ที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในบ้านหลังหนึ่งที่อัลคานาร์

การระเบิดโดยไม่ตั้งใจในบ้านหลังดังกล่าวอาจทำให้ผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้ต้องปรับเปลี่ยนแผนโจมตีมาใช้วิธีขับรถพุ่งชนคนบนถนนนักท่องเที่ยว ลาส แรมบลาส ในบาร์เซโลนาแทน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คนและบาดเจ็บอีกราว 100 คน หลังจากนั้นหลายชั่วโมง เกิดเหตุโจมตีแบบเดียวกันในแคมบริลส์ที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิต และตำรวจวิสามัญผู้ก่อเหตุ 5 คน ซึ่งบางคนสวมเข็มขัดระเบิดปลอมและพกมีด

สองเหตุการณ์นี้ถือเป็นการโจมตีนองเลือดรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในสเปนนับจากเดือนมีนาคม 2004 ที่กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงวางระเบิดขบวนรถไฟในมาดริดทำให้มีผู้เสียชีวิต 191 คน เหตุการณ์ในบาร์เซโลนาและแคมบริลส์ยังถือเป็นเหตุโจมตีพลเรือนครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในยุโรปที่ไอเอสออกมาอ้างว่าเป็นผู้บงการ