xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจสเปนค้นพบถังแก๊ส 120 ใบ เก็บไว้ในโรงงานระเบิดของกลุ่มโจมตีบาร์เซโลนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ถังแก๊สจำนวนมากซึ่งตำรวจตรวจพบ ระหว่างการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในเมืองอัลกานาร์ ที่อยู่ใต้ลงไปจากเมืองบาร์เซโลนาราว 200 กม. บ้านหลังนี้เข้าใจกันว่าเป็นโรงงานผลิตระเบิดของกลุ่มก่อการร้ายซึ่งก่อเหตุโจมตี 2 ครั้งซ้อนที่บาร์เซโลนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว </i>
เอเอฟพี/บีบีซีนิวส์ - กลุ่มผู้ก่อการร้ายที่คาดว่ามีจำนวนรวม 12 คน ที่ก่อเหตุโจมตีขึ้นในสเปน 2 ครั้งซ้อนและคร่าชีวิตเหยื่อไปรวม 14 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังเก็บรวบรวมถังแก๊สเอาไว้ถึง 120 ถังโดยซุกอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่เชื่อกันว่าเป็นโรงงานทำระเบิดของพวกเขา อีกทั้งกำลังวางแผนนำถังแก๊สเหล่านี้ไปใช้ในการโจมตีด้วยรถยนต์ ทั้งนี้จากการแถลงของตำรวจสเปนในวันอาทิตย์ (20 ส.ค.)

โคเซป ยุยส์ ตราเปโร ผู้บัญชาการตำรวจของภูมิภาค แถลงกับพวกผู้สื่อข่าวว่า พวกผู้ต้องสงสัยเป็นนักรบญิฮาดกลุ่มนี้กำลังตระเตรียมผลิตระเบิดหลายลูกสำหรับ “การโจมตีหนึ่งครั้งหรือมากครั้งกว่านั้นในเมืองบาร์เซโลนา” พร้อมกับเปิดเผยด้วยว่าตำรวจยังพบร่องรอยของสารไตรแอซีโทน ไตรเปอร็อกไซด์ (triacetone triperoxide หรือ TATP) ซึ่งพวก “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) นิยมนำมาทำเป็นระเบิดจนกลายเป็นเครื่องหมายของพวกนี้ อยู่ในบ้านหลังดังกล่าวด้วย

แต่ปรากฏว่าผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้ได้ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจในบ้านดังกล่าวเสียก่อนเมื่อคืนวันพุธ (16) จนกระทั่งมีผู้เสียชีวิตไปหลายคน ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นน่าจะบังคับให้พวกเขาต้องปรับเปลี่ยนแผนการปฏิบัติการ

กล่าวคือ ในตอนเย็นวันพฤหัสบดี (17) แทนที่พวกเขาจะใช้การโจมตีด้วยรถบรรจุระเบิดตามแผนเดิม ก็เปลี่ยนเป็นใช้รถตู้วิ่งซิกแซ็กด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าชนฝูงชนในถนนลัส รัมบลัส ของเมืองบาร์เซโลนา ขณะที่คลาคล่ำแออัดด้วยนักท่องเที่ยว ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 13 คน และบาดเจ็บอีกราว 100 คน

อีกหลายชั่วโมงต่อมา เมื่อย่างเข้าวันใหม่วันศุกร์ (18) ได้เกิดการโจมตีทำนองเดียวกันซึ่งน่าจะเป็นการก่อเหตุของผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้เช่นกัน ณ เมืองกัมบริลส์ เมืองรีสอร์ตชายทะเลที่อยู่ห่างราว 120 กิโลเมตรทางตอนใต้ของบาร์เซโลนา โดยคราวนี้มีผู้หญิงถูกสังหารไป 1 ราย ตำรวจได้ยิงตอบโต้และสังหารคนร้ายที่เข้าโจมตีในกัมบริลส์ตายไป 5 คน มีบางคนกำลังคาดเข็มขัดสะพายวัตถุระเบิดปลอมๆ รวมทั้งถือมีดเป็นอาวุธด้วย

ทางด้านกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ได้ออกมาแถลงแสดงความรับผิดชอบการโจมตีเหล่านี้ โดยที่เชื่อกันว่านี่เป็นการก่อเหตุครั้งแรกของกลุ่มไอเอสในสเปนด้วย
<i>เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของสเปนกำลังตรวจกองซากปรักหักพังของบ้านหลังหนึ่งในเมืองอัลกานาร์ ที่อยู่ใต้ลงไปจากเมืองบาร์เซโลนา ราว 200 กม. เมื่อวันอาทิตย์ (20 ส.ค.)  เข้าใจกันว่ากลุ่มคนร้ายซึ่งก่อเหตุโจมตี 2 ครั้งซ้อนในสัปดาห์ที่แล้ว ใช้บ้านหลังนี้เป็นโรงงานทำระเบิด แล้วเกิดความผิดพลาดขึ้นมา </i>
ตำรวจกำลังตามล่าชายชาวโมร็อกโกผู้หนึ่งซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นคนขับรถตู้คันที่ก่อเหตุในบาร์เซโลนา พร้อมกับเตือนด้วยว่าเขาอาจจะหลบหนีออกนอกสเปนไปแล้วก็ได้

“เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน” ตราเปโร พูดถึงผู้ต้องสงสัยวัย 22 ปีผู้นี้ ซึ่งมีชื่อว่า ยูเนส อาบูยากู๊บ

“ไม่มีเสียงดนตรี ไม่มีเด็กๆ ไม่มีผู้หญิง”

ในเมืองอัลกานาร์ เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ห่างจากบาร์เซโลนาไปทางใต้ราว 200 กิโลเมตร พวกเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนกำลังตรวจสอบหาหลักฐานจากซากปรักหักพังของบ้านหลังหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่าเป็นโรงงานผลิตระเบิดของกลุ่มผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ และที่นี่เองซึ่งมีการค้นพบถังแก๊สเก็บเอาไว้จำนวนมาก

มัคทีน โครบี หญิงฝรั่งเศสเกษียณอายุซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านซึ่งอยู่ติดกัน บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่าเธอเสียใจที่ไม่ได้แจ้งตำรวจเกี่ยวกับความน่าสงสัยของพวกเพื่อนบ้านเหล่านี้ของเธอ

เธอเดินทางมาพักที่วิลลาทาสีชมพูหลังนี้ของเธอหลายครั้งทีเดียวใน 1 ปี และสังเกตเห็นว่ามีชาย 4 คนซึ่งทั้งหมดพูดภาษาฝรั่งเศส อาศัยอยู่ในบ้านหลังถัดจากเธอตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา

“พวกเขาระมัดระวังตัวมาก ระมัดระวังตัวจนผิดสังเกต ประตูหน้าต่างถูกปิดหมด ไม่มีเสียงดนตรี ไม่มีเด็กๆ ไม่มีผู้หญิง” เธอเล่า

“บางครั้งพวกเขาจะพักอยู่แค่ 2 วันแล้วก็ไป พวกเขาทักทายฉันนะ แต่ไม่เคยสบตาฉันเลย” หญิงเกษียณอายุวัย 61 ปีผู้นี้เล่าต่อ

เธอบอกว่าเมื่อวันพุธ (16) ซึ่งเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงนั้น เธอถูกแรงเหวี่ยงจนตกลงมาที่พื้น

“ฉันไม่รู้หรอกว่าพวกเขาเป็นผู้ก่อการร้าย ฉันคิดว่าเป็นถังแก๊สของพวกเราด้วยซ้ำที่เกิดระเบิดขึ้นมา”
<i>กษัตริย์ เฟลิเป ที่ 6 และพระราชินี เลติเซีย แห่งสเปน ทรงวางพวงมาลาไว้อาลัยผู้ประสบเคราะห์จากเหตุโจมตีในเมืองบาร์เซโลบา ณ ถนนลัส รัมบลัส เมื่อวันเสาร์ (19 ส.ค.) </i>
<i>ผู้คนวางดอกไม้ เทียนไข และข้าวของอื่นๆ ที่บริเวณถนนลัส รัมบลัส ในเมืองบาร์เซโลนา ในวันอาทิตย์ (20 ส.ค.)  เพื่อแสดงความไว้อาลัยผู้ตกเป็นเหยื่อของเหตุโจมตีซึ่งเกิดขึ้นที่บริเวณนี้เมื่อ 3 วันก่อน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 13 คน บาดเจ็บกว่าร้อย </i>
ฝีมือของอิหม่าม?

พวกเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนบอกว่า พวกเขาเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้มีสมาชิกซึ่งเป็นชายล้วนอย่างน้อย 12 คน บางคนยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย

อิหม่ามผู้นำทางศาสนาอิสลาม ซึ่งมีชื่อว่า อับเดลบาคี เอส ซัตตี คือหนึ่งในผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ ตำรวจสเปนยืนยัน

เชื่อกันว่าเขาเป็นผู้ที่ทำให้พวกเยาวชนในรีปอล เมืองเล็กๆ บริเวณเชิงเขาปีรานีส กลายเป็นพวกที่มีความคิดรุนแรงสุดโต่ง ทั้งนี้ผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้หลายคน รวมทั้งอาบูยากู๊บ ด้วย เป็นผู้ที่เติบโตหรือพำนักอาศัยอยู่ที่เมืองนี้

ในวันเสาร์ (19) ตำรวจได้บุกเข้าตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ของอิหม่ามผู้นี้ที่รีปอล เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนยังกำลังพยายามเก็บร่องรอยดีเอ็นเอ เพื่อตรวจสอบดูว่าอิหม่ามผู้นี้เป็นผู้หนึ่งซึ่งเสียชีวิตไปหรือเปล่า จากเหตุระเบิดซึ่งเกิดขึ้นที่บ้านซึ่งถูกใช้เป็นโรงงานผลิตบอมบ์ในเมืองอัลกานาร์

ปลูกฝังความคิดรุนแรงสุดโต่งให้เยาวชน

รายงานข่าวระบุว่าตำรวจรู้จักอิหม่ามผู้นี้ดี ขณะที่สื่อสเปนบอกว่าเขาเคยติดคุกด้วย

ทั้งหนังสือพิมพ์ เอล ปาอิส และหนังสือพิมพ์ เอล มุนโด ต่างรายงานข่าวโดยอ้างกองกำลังต่อต้านผู้ก่อการร้ายระบุว่า อิหม่ามผู้นี้เคยพบกับพวกผู้ต้องหาที่โยงใยเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดรถไฟในกรุงมาดริดเมื่อเดือนมีนาคม 2004 ที่ได้แรงบันดาลใจจากอัลกออิดะห์ และได้สังหารคร่าชีวิตผู้คนไป 191 คน

นอร์ดีน เอล ฮายี วัย 45 ปี ซึ่งย้ายเข้ามาอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกันกับซัตตีเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว กล่าวว่า “ในตอนเช้าวันอังคาร (อิหม่ามผู้นี้) ออกจากอพาร์ตเมนต์ไป โดยพูดว่าเขากำลังจะเดินทางไปพักผ่อนที่โมร็อกโก”

“เขาเป็นคนพูดน้อย โดยใช้เวลาเกือบทั้งหมดกับคอมพิวเตอร์ของเขาในห้องของเขา เขามีโทรศัพท์มือถือเก่าๆ เครื่องหนึ่งซึ่งเล่นอินเทอร์เน็ตไม่ได้ แล้วก็มีหนังสืออยู่สองสามเล่ม” เพื่อนร่วมอพาร์ตเมนต์เดียวกันกับซัตตี บอก
<i>บรรยากาศที่อาสนวิหารซากราดา ฟามีเลีย ในเมืองบาร์เซโลนา เมื่อวันอาทิตย์ (20 ส.ค.) ก่อนเริ่มพิธีมิสซาเพื่อรำลึกถึงเหยื่อผู้ประสบเคราะห์จากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายทั้งที่บาร์เซโลนาและที่เมืองกัมบริลส์ ในสัปดาห์ที่แล้ว </i>
“ถูกล้างสมอง”

ในเมืองเอ็มเริร์ต ของโมร็อกโก พวกญาติๆ ของอาบูยากู๊บ พากันกล่าวหาอิหม่ามซัตตีว่าเป็นคนที่ทำให้เด็กหนุ่มๆ กลายเป็นพวกหัวรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น ยูเนส หรือน้องชายของเขาที่ชื่อ ฮุสเซน

“สักสองปีที่ผ่านมา ยูเนสกับฮุสเซนเริ่มกลายเป็นพวกหัวรุนแรงด้วยอิทธิพลของอิหม่ามคนนี้” ปู่ของพวกเขาบอกกับเอเอฟพี

ผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของผู้อพยพชาวโมร็อกโก รวมทั้ง มุสซา อูคาบีร์ วัย 17 ปี ซึ่งเกิดที่เมืองรีปอล เขาเป็น 1 ใน 5 ผู้ต้องสงสัยที่ถูกยิงเสียชีวิตในเมืองกัมบริลส์ ขณะที่ ดริสส์ พี่ชายของเขาเป็น 1 ใน 4 คนที่ถูกตำรวจจับกุม

ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งพูดถึงมุสซาว่า “ชอบเล่นฟุตบอล ชอบสนุกสนาน คุยเล่นกับสาวๆ”

“สักสองสามเดือนหลังมานี้ เขาเริ่มต้นกลายเป็นคนสนใจศาสนา เขาเคยไปยังมัสยิดในรีปอล บางทีอาจจะเป็นที่นั่นแหละที่เขาถูกล้างสมอง” ลูกพี่ลูกน้องคนนี้บอก

กำลังโหลดความคิดเห็น