กาตาร์ปัดห้ามเที่ยวบินรับคนไป “พิธีฮัจญ์” จากซาอุฯ ลงจอดในประเทศ

เอเอฟพี - กาตาร์ปฏิเสธในวันนี้ (21 ส.ค.) ว่า พวกเขาไม่ได้ห้ามเที่ยวบินของซาอุดีอาระเบียลงจอดในประเทศเพื่อขนส่งผู้แสวงบุญชามุสลิมไปยังนครมักกะฮ์ ภายหลังข้อกล่าวหาของทางการริยาดห์

เมื่อวานนี้ (20) ซาอุดีอาระเบียน แอร์ไลน์ส (Saudi Arabian Airlines) ระบุว่า ทางการกาตาร์ปฏิเสธไม่ให้เที่ยวบินของ ซาอุดีอาระเบียน แอร์ไลน์ ที่จะขนส่งผู้แสวงบุญฮัจญ์ชาวกาตาร์ ลงจอดที่สนามบินนานาชาติฮาหมัด

เที่ยวบินดังกล่าวเป็นหนึ่งในไม่กี่ช่องทางที่จะทำให้ชาวกาตาร์สามารถไปยังซาอุดีอาระเบียที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเปิดพรมแดนชั่วคราวเพื่อรับผู้แสวงบุญมายังนครมักกะฮ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนาอิสลาม หลังจากวิกฤตทางการทูตกว่าสองเดือนที่ได้เห็นริยาดห์ตัดสัมพันธ์กับกาตาร์และแบนพลเมืองกาตาร์ไม่ให้เข้าประเทศ

ในวันนี้ (21) แหล่งข่าวทางการายหนึ่งในสำนักงานการบินพลเรือนของกาตาร์ระบุว่า “ไม่มีหลักฐานสำหรับข่าวที่อ้างว่ารัฐกาตาร์ไม่อนุญาตให้สายการบินซาอุดีอาระเบียขนส่งผู้แสวงบุญชาวกาตาร์” อ้างจากรายงายของสำนักข่าว QNA ของทางการ

หน่วยงานการบินพลเรือนของกาตาร์ยืนยันว่า พวกเขาได้รับคำขออนุญาตลงจอดจากสายการบินซาอุดีอาระเบียและได้ให้สายการบินดังกล่าวติดต่อกับกระทรวงกิจการอิสลาม “ตามระเบียบปฏิบัติที่เคยทำมา”

พิธีฮัจญ์ที่เมกกะ ส่วนสำคัญของศาสนาอิสลามที่ชาวมุสลิมสมควรต้องไปเข้าร่วมอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต มีขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายนของปีนี้ พิธีนี้คาดว่าจะดึงดูดชาวมุสลิมราว 2 ล้านคนจากทั่วโลก

พิธีกรรมนี้กลายเป็นจุดขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบียและกาตาร์ที่ติดอยู่ในวิกฤตทางการทูตที่ได้เห็นซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับโดฮาจากข้อกล่าวว่าให้การสนับสนุนกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงและมีความสัมพันธ์กับอิหร่าน กาตาร์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

เมื่อเดือนที่แล้วซาอุดีอาระเบียระบุว่า ผู้แสวงบุญชาวกาตาร์จะได้รับอนุญาตให้เข้ามายังซาอุดีอาระเบียสำหรับพิธีฮัจญ์ในปีนี้แต่บังคับใช้ข้อจำกัดด้านการเดินทางหลายข้อรวมถึงให้บินด้วยสายการบินที่ริยาดห์อนุญาตเท่านั้น

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดความไม่พอใจในโดฮาที่ทางการระบุว่า พิธีกรรมดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการทูต

ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้ากับกาตาร์เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ในสิ่งที่กลายเป็นวิกฤตทางการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกาะกุมภูมิภาคอ่าวอาหรับในรอบหลายสิบปี