รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ พูดคุยกับผู้นำของซาอุดีอาระเบีย อาบูดาบี และกาตาร์ เมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับความกังวลของเขาต่อความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ระหว่างกาตาร์และเพื่อนบ้านในอ่าวอาหรับ ทำเนียบขาวระบุ
ทรัมป์ซึ่งกำลังใช้เวลาช่วงสัปดาห์ที่บ้านหลังใหม่ของเขาในนิวเจอร์ซีย์ พูดคุยกับสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุลลาซิส แห่งซาอุดีอาระเบีย รวมถึงสมเด็จพระมงกุฎราชกุมาร ชัยค์ โมฮัมเหม็ด บิน ซาเย็ด อัลนาห์ยัน และอามีร์ ชัยค์ ทามิม บิน ฮามัด อัล-ทานี ของกาตาร์
“เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการหยุดยั้งการให้เงินช่วยเหลือการก่อการร้ายและการทำลายแนวคิดสุดโต่ง ท่านประธานาธิบดียังย้ำว่า ความสามัคคีในภูมิภาคจำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายของการประชุมซัมมิตที่ริยาดห์ที่จะเอาชนะการก่อการร้านและส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาค” ทำเนียบขาวระบุ
“อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อว่า เป้าหมายสำคัญที่สุดของแนวคิดริเริ่มของเขาคือการยุติการให้เงินสนับสนุนการก่อการร้าย” ทำเนียบขาวระบุ
กาตาร์อาจเผชิญกับกาคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากรัฐอ่าวอาหรับที่ตัดสัมพันธ์กับโดฮาจากข้อกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย เส้นตายในการยอมรับข้อเรียกร้องของพวกเขาเดิมทีน่าจะหมดเขตเมื่อคืนวานนี้ (2) ก่อนที่ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรสามประเทศจะพ้องกับคำขอจากคูเวตให้ขยายเวลาไปอีก 48 ชั่วโมง
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของกาตาร์ ชัยค์ มูฮัมหมัด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ทานี กล่าวว่า ข้อเรียกร้องนี้ถูกคิดขึ้นมาเพื่อให้ถูกปฏิเสธ และเสริมว่าข้อเรียกร้องนี้ไม่มีจุดประสงค์เพื่อจัดการกับการก่อการร้ายแต่เพื่อลดทอนอำนาจอธิปไตยของประเทศเขา
กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับยืนกรานว่า ข้อเรียกร้องนี้ไม่สามารถเจรจาได้
เอกอัครราชทูตของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำรัสเซีย กล่าว่า กาตาร์อาจเผชิญการคว่ำบาตรรอบใหม่หากพวกเขามายอมทำตามข้อเรียกร้อง
ความขัดแย้งนี้ปะทุขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วเมื่อซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และอียิปต์ ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและการเดินทางกับกาตาร์ และกล่าวหาว่า พวกเขาสนับสนุนการก่อการร้านและเป็นพันธมิตรของศัตรูในภูมิภาคอย่างอิหร่าน ข้อกล่าวหาที่โดฮาปฏิเสธ
ความขัดแย้งนี้เปิดฉากขึ้นไม่กี่วันหลังจากทรัมป์พบเหล่าผู้นำอ่าวอาหรับในริยาดห์และเรียกร้องการ่วมมือกันต่อต้านภัยคุกคามต่างๆ ในภูมิภาค เช่น อิหร่าน และกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์
เมื่อวานนี้ (2) เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า สหรัฐฯ สนับสนุนให้ “ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นเพื่อให้เกิดการหารือทางการทูตเชิงสร้างสรรค์ เราไม่ได้จะจัดการหารือเหล่านั้นก่อนล่วงหน้า เราสนับสุนนการเป็นคนกลางของคูเวตอย่างเต็มที่”