มันก็จะมึนๆ หน่อย! “ทรัมป์” วอนกษัตริย์ซาอุฯ รักษา “เอกภาพ” ในอ่าวอาหรับ หลังทวีตเชียร์ให้ตัดสัมพันธ์ “กาตาร์”

รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ต่อสายสนทนากษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย เรียกร้องให้รักษา “เอกภาพ” ภายในกลุ่มรัฐอ่าวอาหรับ หลังออกมาโพสต์ทวิตเตอร์เชียร์ให้กลุ่มชาติตะวันออกกลางตัดสัมพันธ์กับกาตาร์โทษฐานสนับสนุนอิสลามิสต์

ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ว่า การไปเยือนตะวันออกกลางของเขา “เริ่มผลิดอกออกผล” ทั้งยังโอ้อวดว่าคำพูดต่อต้านอิสลามิสต์ของตนที่กรุงริยาดเป็นแรงบันดาลใจให้กลุ่มมหาอำนาจอาหรับตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ เพื่อประท้วงที่รัฐแห่งนี้ให้การสนับสนุนลัทธิก่อการร้าย

“ดีเหลือเกิน การได้เข้าเฝ้าฯ กษัตริย์และพูดคุยกับ 50 ประเทศขณะไปเยือนซาอุดีอาระเบียกำลังผลิดอกออกผล พวกเขาบอกว่าอยากจะใช้ไม้แข็งกับการให้เงินทุนหนุนลัทธิสุดโต่ง และการระบุอ้างอิงทั้งหมดกำลังชี้ไปที่กาตาร์ บางทีนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการยุติความโหดเหี้ยมของลัทธิก่อการร้าย!”

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ทรัมป์ เพิ่งจะต่อโทรศัพท์ถึงสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุฯ เพื่อเรียกร้องให้กลุ่มรัฐอ่าวอาหรับรักษาความเป็นเอกภาพไว้

“ข้อความของท่านก็คือ เราจำเป็นต้องรักษาเอกภาพในภูมิภาค เพื่อร่วมกันต่อต้านค่านิยมหัวรุนแรงและการให้ทุนสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐอ่าวอาหรับทุกชาติจะต้องสามัคคีกัน เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์

เจ้าหน้าที่วอชิงตันทั้งในอดีตและปัจจุบันยอมรับกับรอยเตอร์ว่า พวกเขาตกตะลึงไปตามๆ กันเมื่อทราบข่าวว่ารัฐบาลซาอุฯ จับมือกับอียิปต์ บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ตัดขาดความสัมพันธ์ทางการทูตกับโดฮาเมื่อวันจันทร์ (5) ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่าซาอุฯ ไม่ได้แจ้งให้วอชิงตันทราบล่วงหน้าจนกระทั่งมีข่าวออกมาแล้ว

แม้ ทรัมป์ จะแสดงท่าทีหนุนหลังริยาดและกลุ่มชาติอาหรับอย่างเต็มที่ แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็พยายามรักษาสมดุลด้วยการแถลงชื่นชมกาตาร์ที่อนุญาตให้อเมริกาเข้าไปตั้งฐานทัพ และ “มีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะรักษาความมั่นคงในภูมิภาคมาโดยตลอด”

ปัจจุบันมีทหารอเมริกันราว 8,000 นายประจำการอยู่ที่ฐานทัพ อัล-อูเดอิด (Al Udeid) ในกาตาร์ ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง และเป็นจุดตั้งต้นในการส่งเครื่องบินออกไปโจมตีกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่ยึดดินแดนในอิรักและซีเรีย

โฆษกเพนตากอนระบุว่า เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ได้โทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีกลาโหมกาตาร์เมื่อวานนี้ (6) ทว่าไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดของบทสนทนา

ข้อความทางทวิตเตอร์ของทรัมป์ ดูจะขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับคำพูดของเจ้าหน้าที่อเมริกันหลายคน ซึ่งยืนยันเมื่อวันจันทร์ (5) ว่า สหรัฐฯ จะพยายามเกลี้ยกล่อมให้ซาอุดีอาระเบียกับกาตาร์รอมชอมกันให้ได้ เนื่องจากกาตาร์เป็นชาติพันธมิตรที่มีความสำคัญทางทหารและการทูตเกินกว่าจะถูกโดดเดี่ยว