เอเอฟพี - ตำแหน่งที่อยู่ของเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายจะถูกพบในที่สุด แต่จำเป็นที่จะต้องใช้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ ประธานบริหารสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ระบุในวันนี้ (1)
ไม่มีร่องรอยของโบอิ้ง 777 ที่สูญหายในเดือนพฤษภาคมปี 2014 พร้อมกับคนบนเครื่องทั้ง 239 คน ถูกพบในระหว่างการค้นหาใต้ทะเลลึกในมหาสมุทรอินเดียใต้นอกชายฝั่งออสเตรเลียที่ยุติลงเมื่อเดือนมกราคม
“จะมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยระบุตำแหน่งของซากเครื่องบินในที่สุด” ปีเตอร์ เบลลิว ประธานบริหารของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ บอกกับหนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลีย พร้อมเสริมว่า การค้นพบนี้ “อาจคลายความขับข้องใจสำหรับบางคน”
เบลลิว กล่าวในการประชุมด้านการบินที่ซิดนีย์ ว่า ความก้าวหน้าดังกล่าวอาจมาจาก “การใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้” พลังประมวลผลประสิทธิภาพสูง และการวิจัยของมหาวิทยาลัย
เขาไม่ได้ให้รายละเอียดว่า การวิจัยอะไรที่สามารถนำไปสู้การค้นพบดังกล่าว แต่เสริมว่า ความพยายามของเอกชนที่จะระบุตำแหน่งของเครื่องบินก็อาจมีบทบาทสำคัญเช่นกัน
จนถึงตอนนี้ มีการพบชิ้นส่วนของ MH370 แล้วบนชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียตะวันตก รวมถึงชิ้นส่วนปีกราว 2 เมตร ที่เรียกกันว่า แฟลปเพอรอน
“ในตอนนี้กำลังมีคนที่ใช้ทรัพย์สินจำนวนมากของพวกเขาเองและประสานงานกับทางการ ผมคิดว่าบางคนจะสร้างการค้นพบเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือการ่วมมือกันของผู้คน” เบลลิว กล่าว
“มันจะสร้างสถานการณ์ที่จะก่อให้เกิดโอกาสในการพบตำแหน่งที่อาจเป็นที่อยู่ของซากเครื่องบิน”
เมื่อเดือนพฤษภาคม หน่วยงานวิทยาศาสตร์แห่งชาติของออสเตรเลีย CSIRO กล่าวว่า MH370 มีความเป็นไปได้สูงที่จะอยู่ทางเหนือของเขตค้นหาก่อนหน้านี้ที่มีขนาด 120,000 ตารางกิโลเมตร ที่ถูกกำหนดผ่านสัญญาณปิง (ping) ของดาวเทียมและเชื้อเพลิงที่เหลือของเที่ยวบิน
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ดาร์เรน เชสเตอร์ กล่าวว่า การค้นหาใต้น้ำจำไม่เกิดขึ้นอีกจนกว่าจะมีหลักฐานใหม่เกี่ยวกับตำแหน่งของเครื่องบินปรากฏออกมา
เมื่อเดือนที่แล้ว ออสเตรเลียเผยแพร่แผนที่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับภูมิประเทศของพื้นทะเลที่ทำการค้นหา ขณะที่ข้อมูลชุดที่สองจะถูกเผยแพร่ในช่วงปลายปี 2018