มะกันบินข่มขวัญเหนือคาบสมุทรเกาหลี ทรัมป์ฉุนจีนปล่อยโสมแดงยิงขีปนาวุธ

เอเจนซีส์ – อเมริกาส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-1บี โชว์แสนยานุภาพเหนือคาบสมุทรเกาหลี หลังเปียงยางทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งใหม่ที่อ้างว่า ส่องไกลถึงเป้าหมายทุกที่ในแผ่นดินใหญ่อเมริกา ขณะที่ทรัมป์ฉุนขาด ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า จะไม่ยอมให้จีน “นั่งเฉย” ปล่อยโสมแดงกำเริบเสิบสานอีกต่อไป ด้านรัฐมนตรีกลาโหมดแดนกิมจิแย้มเพนตากอนเตรียมส่ง “ทรัพย์สินเชิงยุทธศาสตร์” ไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งปกติแล้วคำพูดแบบนี้มักหมายถึงระบบอาวุธขั้นสูง

กองทัพอากาศสหรัฐฯ แถลงในวันอาทิตย์ (30 ก.ค.) ว่าได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-1บี จากฐานทัพอากาศกวมไปยังคาบสมุทรเกาหลี โดยมีเครื่องบินขับไล่ของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ร่วมปฏิบัติการด้วยเมื่อวันเสาร์ (29 ก.ค.) ซึ่งถือเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการทดสอบขีปนาวุธ “ฮวาซอง-14” ของเกาหลีเหนือในวันศุกร์ (28 ก.ค.) และวันที่ 3 ของเดือนนี้

พลเอกเทอร์เรนซ์ เจ. โอชอเนสซี ผู้บัญชาการทหารอากาศสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก ระบุว่า เกาหลีเหนือยังคงเป็นภัยคุกคามสำคัญที่สุดต่อเสถียรภาพในภูมิภาค และหากจำเป็น กองกำลังภาคพื้นแปซิฟิกพร้อมปฏิบัติการอย่างรวดเร็วและรุนแรงในเวลาและสถานที่ที่กำหนดเอง

ก่อนหน้านี้ อเมริกามักใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดเร็วกว่าเสียง บี1-บี “แลนเซอร์” โชว์แสนยานุภาพตอบโต้การทดสอบขีปนาวุธหรือนิวเคลียร์ของโสมแดง

สำหรับครั้งล่าสุด คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่บัญชาการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ด้วยตนเองเมื่อเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์ ประกาศว่า การทดสอบครั้งนี้เป็นการเตือนอย่างเฉียบขาดว่า ถ้าขืนพยายามโจมตีเปียงยาง อเมริกาไม่มีทางรอดพ้นจากการทำลายล้าง และยังอ้างว่า เปียงยางมีศักยภาพโจมตีเป้าหมายใดๆ ก็ตามในอเมริกา

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการโสมแดงรายงานว่า ฮวาซอง-14 ซึ่งแปลว่า ดาวอังคาร ได้พุ่งขึ้นสูงถึง 3,724.9 กิโลเมตร และไปได้ไกล 998 กิโลเมตร เป็นระยะเวลา 47 นาที 12 วินาที ก่อนตกลงในน่านน้ำบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี

ผู้เชี่ยวชาญตะวันตกกล่าวว่า การคำนวณจากข้อมูลการบิน และตัวเลขประมาณการณ์จากกองทัพสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แสดงให้เห็นว่า ฮวาซอง-14 สามารถโจมตีได้ถึงชายฝั่งด้านตะวันออกของอเมริกา เช่น นิวยอร์ก ขึ้นอยู่กับขนาดบรรทุกของจรวด ซึ่งเท่ากับว่า ไอซีบีเอ็มล่าสุดนี้มีศักยภาพเหนือกว่าลูกที่ทดสอบไปเมื่อต้นเดือน โดยในทางทฤษฎีนั้นสามารถไปได้ไกลประมาณ 10,000 กิโลเมตร

เดวิด ไรท์ จากสหภาพนักวิทยาศาสตร์ที่ห่วงใยที่มีฐานอยู่ในอเมริกา เขียนไว้ในบล็อกว่า หากยิงด้วยแนววิถีปกติ ฮวาซอง-14 อาจมีพิสัยถึง 10,400 กิโลเมตร

กระทรวงต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ด้วยถ้อยคำคล้ายเดิมว่า ปักกิ่งคัดค้านการกระทำของเปียงยางซึ่งเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) แต่ขณะเดียวกัน ก็คาดหวังว่า ทุกฝ่ายจะดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ความตึงเครียดลุกลาม

อนึ่ง แถลงการณ์ของปักกิ่งออกมาหลังจากที่วอชิงตันและโซลร่วมซ้อมรบโดยใช้ขีปนาวุธจริงจากพื้นผิวสู่พื้นผิว

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงความผิดหวังอย่างรุนแรงต่อจีน

ผู้นำสหรัฐฯ ทวิตเมื่อวันเสาร์ว่า “บรรดาผู้นำที่โง่เขลาของเราในอดีตปล่อยให้จีนค้าขายมีรายได้เป็นแสนล้านดอลลาร์ แต่จีนกลับดีแต่พูด ไม่ได้ช่วยอะไรเราเลยเรื่องเกาหลีเหนือ ทั้งที่จีนสามารถแก้ปัญหานี้อย่างง่ายดาย เราจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์นี้ดำเนินต่อไปอีกแล้ว”

ส่วนที่ญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศแถลงว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และตกลงกันว่า มีความจำเป็นจะต้องเพิ่มความกดดันในระดับสูงสุดต่อเกาหลีเหนือ และจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อรับรองมติใหม่ของยูเอ็นเอสซี และดำเนินการร่วมกับจีนและรัสเซีย

ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า ผู้บัญชาการเหล่าทัพของอเมริกาและเกาหลีใต้ร่วมหารือเกี่ยวกับ “ตัวเลือกการตอบโต้ทางทหาร” หลังจากที่เปียงยางทดสอบไอซีบีเอ็มครั้งล่าสุด

ซอง ยอง-มู รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ขานรับว่า กองทัพสหรัฐฯ จะส่ง “ทรัพย์สินเชิงยุทธศาสตร์” ไปยังเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดใดๆ ทว่าคำพูดลักษณะนี้มักหมายถึงระบบอาวุธขั้นสูง เช่น เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเรือบรรทุกเครื่องบิน