รอยเตอร์ - รัฐมนตรีกระทรวงการต่างระเทศของจีน หวัง อี้ กล่าวในวันนี้ (24) ว่า ปักกิ่งต้องการรักษาเสถียรภาพในทะเลจีนใต้ ในขณะที่พวกเขากำลังแสวงหาพันธมิตรในภูมิภาคนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดในน่านน้ำพิพาทแห่งนี้
สหรัฐฯวิพากษ์วิจารณ์จีน ว่า ไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ ด้วยการก่อสร้างเกาะเทียมและเสริมแสนยานุภาพในทะเลจีนใต้ ซึ่งบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค
จีนอ้างสิทธิเหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดในทะเลแห่งนี้ ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งทางเรือมูลค่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และ เวียดนาม ก็มีการอ้างสิทธิด้วยเช่นกัน
ประเทศไทยไม่ได้เป็นรัฐผู้อ้างสิทธิในข้อพิพาทนี้และรักษาจุดยืนเป็นกลางเกี่ยวกับประเด็นนี้
ในระหว่างการปราศรัยประเด็นทะเลจีนใต้ หวังซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนกรุงเทพฯอย่างเป็นทางการ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จีนต้องการรักษาเสถียรภาพในทะเลจีนใต้ ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ถูกบรรลุในปฏิญญาว่าด้านแนวปฏิบัติและกฎระเบียบในอนาคตอันใกล้”
เมื่อเดือนมีนาคมจีนและประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เห็นพ้องต่อกรอบการทำงานเพื่อสร้างแนวปฏิบัติสำหรับน่านน้ำพิพาทแห่งนี้
การเยือนของหวังมีขึ้นก่อนหน้าการประชุมระดับภูมิภาคของประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกรุงมะนิลาในเดือนหน้า
“จีนและไทยเป็นเหมือนพี่น้องกัน” หวังกล่าว
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย ยกย่องความสัมพันธ์ไทย - จีน และกล่าวว่า ไม่มีอุปสรรคใดขวางกั้นความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
ในปีนี้ไทยอนุมัติการซื้อเรือดำน้ำ รถถัง และ เฮลิคอปเตอร์ มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์จากจีน
เมื่อเดือนที่แล้ว ไทยอนุมัติการก่อสร้างโครงการทางรถไฟมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ระยะแยก เพื่อเชื่อมชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศกับภาคใต้ของจีน ผ่านลาวที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ส่วนหนึ่งของโครงการโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road) ของจีน
โครงการนี้ที่ถูกหน่วงเหนี่ยว เนื่องจากความล่าช้าถูกอนุมัติหลังจากที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้คำสั่งบริหารหรือมาตรา 44
หวัง กล่าวว่า โครงการทางรถไฟนี้จะยกระดับสถานะของไทยในภูมิภาค และระบุว่า ทั้งสองประเทศจะก้าวข้ามความแตกต่างเพื่อทำให้โครงการนี้บรรลุผล