รอยเตอร์ - สิงคโปร์เสนอให้เครื่องบินลำเลียงทางทหาร โดรนสอดแนม และอุปกรณ์ในการฝึกฝนการต่อสู้เพื่อสนับสนุนฟิลิปปินส์ต้อสู้กับภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นจากกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ กระทรวงกลาโหม กล่าวในวันนี้ (19 ก.ค.)
ข้อเสนอนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการพูดคุยในมะนิลาเมื่อต้นสัปดาห์ระหว่าง เอิง เอ็งเฮน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และ เดลฟิน โลเรนซานา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของฟิลิปปินส์
สิงคโปร์ที่ถูกโอบล้อมโดยประเทศมุสลิมและมีชนกลุ่มน้อยมุสลิมในประเทศเป็นกังวลเกี่ยวกับบุคคลอันตรายในภูมิภาคนี้ที่ถูกปลุกปั่นโดยกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
รัฐมนตรีระบุว่า ภัยคุกคามการก่อการร้ายที่มีต่อนครรัฐแห่งนี้อยู่ในระดับสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีมานี้และการเตือนภัยถูกยกระดับขึ้นในเดือนพฤษภาคมเมื่อกลุ่มติดอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ยึดเมืองมาราวีบนเกาะมินาดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์
กองกำลังความมั่นคงยังคงกำลังต่อสู้เพื่อชิงคืนเมืองแห่งนี้และในสัปดาห์นี้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ร้องขอให้รัฐสภาขยายกฎอัยการศึกจนถึงสิ้นปีนี้ทั่วมินดาเนา เกาะของชาวมุสลิมเพียงแห่งเดียวในฟิลิปปินส์ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวคาทอลิก
ในระหว่างสองเดือนที่ผ่านมา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เริ่มการตรวจการณ์ร่วมทางทะเลและอากาศบริเวณเขตแดนร่วมในทะเลซูลู เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธระหว่างเกาะบอร์เนียวและมินดาเนา
กระทรวงกลาโหมของสิงคโปร์ระบุว่า พวกเขาได้เสนอให้เครื่องบินลำเลียงซี-130 เพื่อจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดรนสอดแนม และอุปกรณ์ในการฝึกฝนให้กับกองทัพฟิลิปปินส์
“ในขณะที่เอเอฟพี (กองทัพฟิลิปปินส์) มั่นใจว่า มาราวีจะปลอดภัยจากกลุ่มก่อการร้ายในเร็วๆ นี้ จำเป็นต้องมีความพยายามร่วมกันมากกว่านี้เพื่อให้แน่ใจว่า กลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ จะไม่ตั้งฐานที่มั่นของพวกเขาในตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เนื่องจากสิ่งนี้จะทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพต่ออาเซียนส่วนที่เหลือ” กระทรวงฯ ระบุในถ้อยแถลง
ด้วยความกลัวว่ากลุ่มไอเอสอาจสร้างฐานที่มั่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลต่างๆ ในภูมิภาคนี้ประกาศว่า พวกเขาวางแผนที่จะแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง การใช้เครื่องบินสอดแนม และโดรนเพื่อยับยั้งการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธทั่วเขตแดนของพวกเขา