รอยเตอร์/มร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันฟื้นตัวเล็กน้อยในวันอังคาร (18 ก.ค.) จากรายงานที่ระบุว่าซาอุดีอาระเบียกำลังพิจารณาลดการส่งออกและดอลลาร์อ่อนค่าลง ปัจจัยหลังนี้ดันทองคำพุ่งขึ้น ขณะที่วอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ท่ามกลางตัวเลขผลประกอบการของบริษัทต่างๆ และวุฒิสภาสหรัฐฯ ตีตกแผนคว่ำโอบามาแคร์ของทรัมป์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 38 เซ็นต์ ปิดที่ 46.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 42 เซ็นต์ ปิดที่ 48.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ รายงานในวันอังคาร (18 ก.ค.) ว่าซาอุดีอาระเบียกำลังพิจารณาลดการส่งออกน้ำมันอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ความเคลื่อนไหวที่จะช่วยกัดเซาะอุปทานที่เพิ่มขึ้นในลิเบียและไนจีเรีย
การดำเนินการดังกล่าวของซาอุดีอาระเบียมีขึ้น ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการปรับสมดุลในตลาด ขณะที่ซาอุดีอาระเบียจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเพื่อทำให้ตลาดมีเสถียรภาพ โดยการสร้างความมั่นใจว่าสมาชิกรายอื่นจะยังคงเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ขณะเดียวกัน ในวันอังคาร (18 ก.ค.) ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนของดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ อย่างไรก็ดี การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (18 ก.ค.) ปิดผสมผสาน โดยแนสแดคได้ปัจจัยหนุนจากเน็ตฟลิกซ์ จนทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล ส่วนผลประกอบการของโกลด์แมน แซคส์ ฉุดรั้งดาวโจนส์
ดาวโจนส์ ลดลง 54.99 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,574.73 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.47 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,460.61 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 29.87 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,344.31 จุด
แนสแดค ปิดบวก 8 วันติด หลังได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นของเน็ตฟลิกซ์ บริษัทบริการหนังออนไลน์ ที่ปรับขึ้น 13.5 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 183.60 ดอลลาร์ หนึ่งวันหลังจากรายงานว่ามีสมาชิกใหม่ 5.2 ล้านคนในช่วงไตรมาส 2 เหนือกว่าที่คาดหมายกันไว้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของดาวโจนส์ปิดลบ จากแรงฉุดของโกลด์แมน แซกส์ ซึ่งปิดลบ 2.6 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 223.31 ดอลลาร์ หลังรายงานว่ามีรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่รายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้ก็ได้ลดลงถึง 40%
นอกจากนี้ ราคาหุ้นของแบงก์ ออฟ อเมริกาได้ปรับตัวลงเช่นกัน แม้ว่าเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าคาด แต่ก็ถูกกดดันจากการที่รายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้ลดลงอย่างมาก
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐฯ วานนี้ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ เช่น จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, ยูไนเต็ดเฮลท์ กรุ๊ป อิงก์, ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ต่างก็มีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
อีกด้านหนึ่งความล้มเหลวในความพยายามผลักดันยกเลิกโอบามาแคร์ของรีพับลิกัน ในชั้นวุฒิสภาเมื่อคืนวันจันทร์ (17 ก.ค.) ได้กระพือความกังวลในตลาดการเงิน เกี่ยวกับความสามารถของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการออกกฎหมายปฏิรูปภาษีและใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ด้านราคาทองคำในวันอังคาร(18ก.ค.) พุ่งแรง หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,241.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์