เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – เมื่อวานนี้(16 ก.ค) ฝ่ายค้านเวเนซุเอลาจัดการลงประชามติตัดหน้าผู้นำคาราคัส ถามประชาชนต้องการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญตามแผนของมาดูโร และอนุญาตให้กองทัพเวเนฯใช้กำลังปกป้องกฎหมายรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งปธน.ล่วงหน้า พบหญิงเวเนฯวัย 61 ปีเสียชีวิตในระหว่างการลงคะแนน
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานวันนี้(17 ก.ค)ว่า การลงประชามติที่ถูกจัดการโดยฝ่ายค้านในวันอาทิตย์(16 ก.ค)นั้นมีประชาชนเวเนฯไม่ต่ำกว่า 7.1 ล้านคน จากทั้งหมด 30 ล้านคนเข้าร่วม หลังก่อนหน้าฝ่ายค้านเวเนฯตั้งความหวัง คาดน่าจะมีประชาชนอย่างน้อย 11 ล้านคนเข้ามาใช้สิทธิ์การลงประชามติ
ทั้งนี้พบว่า การทำประชามติของฝ่ายค้าน มีขึ้นเพื่อถามความเห็นประชาชนถึงการปฎิเสธต่อแผนแต่งตั้งชุดคณะกรรมการเพื่อร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญของประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร ซึ่งในบัตรลงคะแนน รอยเตอร์ชี้ว่า นอกจากนี้ยังรวมไปถึง การใช้กำลังทหารเพื่อปกป้องกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และต้องการการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาก่อนวาระการอยู่ในตำแหน่งของมาดูโรจะสิ้นสุด ซึ่งพบว่าผู้นำเวเนฯจะต้องลงจากอำนาจในปี 2018
รอยเตอร์ชี้ว่า การลงมติครั้งประวัติศาสตร์นั้นยังได้รับการสนับสนุนเข้าร่วมจากประชาชนเวเนฯในต่างแดน ตั้งแต่เมืองไมอามี ไปจนถึงกรุงมาดริด
อย่างไรก็ตาม สื่อกาตาร์ชี้ว่า การลงประชามติในวันอาทิตย์(16 ก.ค) นั้นไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการเลือกตั้งเวเนฯ และทำให้ผลการลงประชามติที่ประชาชนเข้าร่วมที่ระบุว่า ไม่ต้องการให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จะไม่สามารถถูกบังคับใช้เป็นทางการ เกิดขึ้นก่อนหน้าการลงประชามติของทางฝ่ายคาราคัสที่จะมีขึ้นในสิ้นเดือนนี้
ซึ่งที่ผ่านมา ผู้นำเวเนฯออกมาประกาศว่า มีความจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อกู้วิกฤตทางเศรษฐกิจ และนำเสถียรภาพกลับคืนสู่ประเทศ ซึ่งในเวลานี้เวเนซุเอลาตกอยู่ในทั้งวิกฤตทางการเมืองที่ฝ่ายค้านและประชาชนออกมาประท้วงรายวัน รวมไปถึงวิกฤตทางเศรษฐกิจที่มีสินค้าหลักขาดแคลนถึงขั้นประชาชนต้องคุ้ยถังขยะเพื่อหาอาหารประทังชีวิต
รอยเตอร์ชี้ว่า มาดูโรรับรู้ถึงการจัดลงประชามติของฝ่ายค้าน แต่ทว่าประกาศว่าเป็นการลงประชามติที่ “เถื่อนและไร้ความหมาย” โดยในการลงประชามติเมื่อวาน(16 ก.ค) รอยเตอร์ชี้ว่า เป็นการแสดงอารยะขัดขืนของฝ่ายค้านและประชาชนเวเนฯที่ไม่เห็นด้วยต่อคาราคัส ซึ่งตามมาพร้อมกับการประท้วง และมาตรการอื่นๆของฝ่ายค้าน
อัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า พบว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายในระหว่างการลงคะแนน โดยพว่าเป็นหญิงวัย 61 ปีเสียชีวิตจากการถูกยิง และประชาชนอีก 4 รายได้รับบาดเจ็บ จากมือปืนกลุ่มผู้สนับสนุนคาราคัสที่ได้ขับมอเตอร์ไซดเข้ามาถึงในคูหาลงประชามติที่ถูกจัดขึ้นในโบสถ์แห่งหนึ่งในคาเทีย(Catiaป ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงคาราคัส และได้รับการยืนยันจากโฆษกฝ่ายค้านเวเนซุเอลา
ซึ่งในรายงานของสื่อเวเนฯชี้ว่า กลุ่มผู้สนับสนุนติดอาวุธของคาราคัสที่รู้จักในนาม “คอเลกทิวอส”( colectivos) ได้เปิดฉากยิงใส่กลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายค้าน และทำให้ฝูงชนร่วม 500 คนต้องหลบภัยกระสุนภายในโบสถ์ในช่วงระหว่างเกิดเหตุ อ้างอิงจากพระคาดินัล จอร์จ อูโรซา(Jorge Urosa)