เอเจนซีส์ - ความคืบหน้าล่าสุดเครื่องบินลำเลียง C-130 ของกองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ ตกลงบริเวณกลางไร่ถั่วเหลือง รัฐมิสซิสซิปปี ในเวลา 16.00 น.เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) มีเจ้าหน้าที่บนลำ 16 นาย คาดว่าเสียชีวิตทั้งหมด ล่าสุดค้นพบศพได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว เชื่อเครื่องบินเกิดระเบิดกลางอากาศ เสียการทรงตัวในระดับ 20,000 ฟุต ก่อนตกลงมากระแทกพื้น พบชิ้นส่วนกระจายในรัศมี 5 ไมล์ของถนนไฮเวย์ทั้งสองฟาก
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (11 ก.ค.) ว่า พบว่ามีหน่วยงาน FBI อยู่ในที่เกิดเหตุ และรวมไปถึงเจ้าหน้าที่พื้นที่ เจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน และเจ้าหน้าที่สอบสวน เฟรด แรนเดิล (Fred Randle) ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการฉุกเฉินลาฟลอร์ เคาน์ตี (Leflore County) รัฐมิสซิสซิปปี แถลง
ในแถลงการณ์ยังระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตว่า บนเครื่องบินกองทัพสหรัฐฯ ที่ตกนั้นมีคนทั้งหมดบนเครื่องจำนวน 16 นาย ที่คาดว่าอาจจะเสียชีวิตทั้งหมด
โดยในการให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐฯ ทางโทรศัพท์ หัวหน้าสำนักงานจัดการฉุกเฉินยังกล่าวต่อว่า ปฏิบัติการกู้ภัยและค้นหาจะยังคงเดินหน้าต่อในวันนี้ (11 ก.ค.)
ด้าน เรย์ โคลแมน (Ray Coleman) โฆษกสำนักงานจัดการฉุกเฉินรัฐมิสซิสซิปปี ได้เปิดเผยกับสื่อ NBC NEWS ว่า เครื่องบินกองทัพสหรัฐฯ ที่ประสบอุบัติเหตุ คือ เครื่องบินลำเลียง C-130 โดยสื่อ NBC NEWS ในพื้นที่ระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นของกองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ
ฟ็อกซ์นิวส์ สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ในแถลงการณ์ของกองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ ระบุว่า อากาศยานของทางนาวิกโยธินสหรัฐฯ เกิดอุบัติเหตุ โดยพบว่าเครื่องบินเกิดตกในเวลา 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในไร่แห่งหนึ่ง 85 ไมล์ทางตอนเหนือของเมืองแจ็กสัน ส่วนซากเครื่องบินถูกพบในกระจัดกระจายในรัศมี 5 ไมล์
โดยสื่อฟ็อกซ์นิวส์ชี้ว่า ในแถลงการณ์ของกองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ กล่าวเพียงว่า เครื่องบินที่ตกนั้นอยู่ในปฏิบัติการ แต่ไม่ให้ข้อมูลถึงต้นทางการบิน หรือจุดหมายปลายทาง
ด้าน อลัน แฮมมอนส์ (Alan Hammons) เจ้าหน้าที่สนามบินกรีนวูด (Greenwood) ได้ให้ข้อมูลต่อสื่อ WNCN ว่า เครื่องบินประสบปัญหากับการทรงตัวในระดับ 20,000 ฟุต ในขณะที่หนังสือพิมพ์ เดอะแคลเรียน เลดเจอร์ (Clarion Ledger) รายงานว่า เครื่องบินลำนี้เดินทางออกมาจากฐานทัพมิดเซาท์ปฏิบัติการสนับสนุนทางทะเล (Naval Support Activity Mid-South Base )ในเมืองมิลลิงตัน(Millington) รัฐเทนเนสซี
พยานในเหตุการณ์ แอนดี โจนส์ (Andy Jones) ให้สัมภาษณ์ว่า เขากำลังทำงานอยู่ในฟาร์มเลี้ยงปลาตระกูลปลาดุก (catfish) ของครอบครัวในขณะนั้น พบว่าก่อนเวลา 16.00 น. โจนส์ได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายเสียงระเบิดและมองขึ้นไปบนฟ้า แต่กลับเห็นเครื่องบินลำหนึ่งกำลังพุ่งหัวลงดินพร้อมกับควันที่พวยพุ่งออกมาจากเครื่องยนต์ตัวหนึ่ง
“เมื่อคุณมองขึ้นไป คุณเห็นเครื่องบินกำลังควงสว่าน” และกล่าวต่อว่า “อยู่ในทิศทางที่หัวทิ่มลง”
ในการให้สัมภาษณ์โจนส์ยังระบุว่า หลังจากนั้นเครื่องบินได้ตกหลังต้นไม้ในไร่ปลูกถั่วเหลือง ซึ่งทั้งตัวโจนส์และคนอื่นๆ รีบไปดูที่จุดตกของเครื่องบิน แต่ทว่าไฟทีกำลังลุกไหม้นั้นโหมแรงเกินกว่าที่จะสามารถเข้าใกล้กับซากเครื่องได้ โดยพบว่าการตกอย่างแรกทำให้เครื่องบินทั้งลำนั้นเหมือนถูกเตารีดทับอย่างแรง
ออสติน โจนส์ (Austin Jone) ผู้เป็นพ่อของลูกชายซึ่งเป็นพยานในการตกของเครื่องบินลำเลียง C-130 ให้ความเห็นกับสื่อฟ็อกซ์นิวส์ว่า เพลิงที่ลุกไหม้ยังคงมีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังพระอาทิตย์ตกแล้ว
ด้านสื่อทีวี เมืองเมมฟิส WMC-TV รัฐเทนเนสซี รายงานว่า เครื่องบินทหารลำดังกล่าวนั้นเดินทางออกมาจากเมืองเมมฟิส และตกใกล้กับถนนไฮเวย์ทางตอนเหนือของเมืองแจ็กสัน (Jackson) รัฐมิสซิสซิปปี ชิ้นส่วนเครื่องกระจัดกระจายออกไปทั้งสองด้านของตัวถนนซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเกิดจากเครื่องเกิดระเบิดกลางอากาศ
ฟ็อกซ์นิวส์รายงานเสริมว่า ไฟโหมแรงนั้นเกิดมาจากเชื้อเพลิงของเครื่องบินนั้นได้กลายเป็นอุปสรรคสำหรับหน่วยกู้ภัย ส่งผลทำให้ทางหน่วยต้องเข้าควบคุมเพลิงด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ต้องใช้มนุษย์เข้าช่วย แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เสริม และพบว่ามีการระเบิดรุนแรงเกิดขึ้นหลายครั้ง
ทั้งนี้ ทางสถานีได้อ้างข้อมูลของตำรวจทางหลวงประจำรัฐที่ให้ข้อมูลว่า เครื่องบินที่ตกลำดังกล่าวมีกระสุนสงครามอยู่เต็มลำ และส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติ “ทางเราไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น” อ้างอิงจากความเห็นของแหล่งข่าวตำรวจทางหลวงประจำรัฐรายนี้
ทั้งนี้ สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ล่าสุดร่างผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นั้นถูกพบแล้ว
