เอเจนซีส์ - กองทัพสหรัฐฯ สั่งในวันพุธ (14 ธ.ค.) ระงับการบินของเครื่องบิน MV-22 Osprey ในประเทศญี่ปุ่น ตามคำร้องขอจากทางโตเกียว หลังจากเครื่องบินรุ่นดังกล่าวได้ตกลงในพื้นที่บริเวณเกาะโอกินาวา ถือเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกของเครื่องบินรุ่นนี้ในประเทศญี่ปุ่น
เครื่องบินรุ่นนี้ได้กลายเป็นสายล่อฟ้าเรียกฝ่ายต่อต้านการคงอยู่ของกองทัพอเมริกาในโอกินาวา ซึ่งกลุ่มคนในท้องถิ่นกำลังหาทางจะปิดฐานทัพอเมริกัน โดยบอกว่าเป็นต้นเหตุของการตกและเป็นอันตรายต่อชาวบ้าน
เครื่องบิน Osprey ลำหนึ่งของสหรัฐฯ ได้ตกลงในทะเลเมื่อวันอังคาร หลังเกิดความผิดพลาดขณะทำการฝึกเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ ทำให้ลูกเรือ 5 คนได้รับบาดเจ็บ
สถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่นได้เผยภาพถ่ายในที่เกิดเหตุ แสดงให้เห็นว่า เครื่องบินได้แตกกระจายเป็นหลายชิ้นส่วน อยู่ในน้ำใกล้กับชายฝั่ง
“วันนี้ไม่มีแผนขึ้นบินในญี่ปุ่น” โฆษกนาวิกโยธินสหรัฐฯ ในโอกินาวา ระบุ ขณะกองทัพสหรัฐฯ กำลังทำการสืบสวนหาสาเหตุการตกครั้งนี้ ที่ทางนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ เอ่ยในวันพุธ ว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้า
เครื่องบิน Osprey ที่ถูกออกแบบให้สามารถขึ้นบินในแนวดิ่งได้แบบเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงปรับใบพัดให้บินได้แบบเครื่องบินทั่วไป เคยเจอกับเหตุร้ายมาแล้วหลายครั้งตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ก่อนที่จะมาตกในโอกินาวา
อเมริกาเคยบอกว่า มี 2 ฝูงบิน Osprey อยู่ในญี่ปุ่น แต่ไม่เคยระบุถึงจำนวนที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วใน 1 ฝูงบินจะมีประมาณ 12 - 24 ลำ
“เราเสียใจกับอุบัติเหตุ แต่เราไม่เสียใจต่อการทำงานของเหล่านักบินหนุ่ม” พล.ท.ลอว์เรนซ์ นิโคลสัน ผู้บังคับการนาวิกโยธินสหรัฐฯ ประจำโอกินาวา กล่าวในการแถลงข่าว ซึ่งออกอากาศทาง NHK
การตกครั้งแรกในญี่ปุ่นของเครื่องบิน Osprey อาจทำให้แผนการสับเปลี่ยนกำลังบนเกาะดังกล่าวมีความล่าช้ามากขึ้น ทั้งยังเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสต่อต้านฐานทัพสหรัฐฯ หลังจากมีพลเรือนอเมริกันที่ทำงานให้กับกองทัพสหรัฐฯ ถูกจับกุมในปีนี้จากคดีฆาตกรรมหญิงชาวญี่ปุ่นวัย 20 ปี
โอกินาวา ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของอเมริกาตั้งแต่ปี 1972 เป็นที่ประจำการของบุคลากรกองทัพสหรัฐฯ จำนวนมากจากที่มีอยู่ในญี่ปุ่นประมาณ 50,000 ราย
