เอเจนซีส์ – เครื่องบินทหาร เคซี-130 ของอเมริกา ตกกลางไร่ถั่วเหลืองในรัฐมิสซิสซิปปี้ช่วงเย็นวันจันทร์ (10 ก.ค.) ทำให้คนบนเครื่องบินทั้ง 16 คนเสียชีวิตหมด ซากเครื่องบินกระจัดกระจายเป็นรัศมีหลายกิโลเมตร โดยยังไม่มีการระบุสาเหตุการตก รวมถึงต้นทางและจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินนี้
นาวาเอก ซาราห์ เบิร์นส์ โฆษกหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ ยืนยันว่า เครื่องบินเคซี-130 ประสบอุบัติเหตุเมื่อบ่ายวันจันทร์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ขณะที่หนังสือพิมพ์ แคลเรียน-เลดเจอร์ และสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของ เฟร็ด แรนเดิล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินเทศมณฑลเลอฟลอร์ ที่ยืนยันว่า พบร่างผู้เสียชีวิต 16 ราย หลังจากเครื่องบินทหารเคซี-130 ดิ่งพสุธาในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ ห่างจากทางเหนือของเมืองแจ็คสัน 135 กิโลเมตร
รายงานยังระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดล้วนเป็นผู้ที่อยู่บนเครื่องบินเคซี-130 ซึ่งเป็นเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศของหน่วยนาวิกโยธิน โดยไม่มีผู้รอดชีวิต
สถานีดับเบิลยูเอสโอซี-ทีวี อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ โดยรายงานว่า เครื่องบินลำนี้เดินทางออกจากเชอร์รี่พอยต์ในรัฐแคโลไรนา ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของนาวิกโยธิน
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันจันทร์ (4.00 น. วันอังคารตามเวลาไทย) โดยเครื่องบินตกลงในไร่ถั่วเหลืองซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างเทศมณฑลซันฟลาวเวอร์กับเทศมณฑลเลอฟลอร์
เบร็ตต์ คาร์ โฆษกสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สอบสวนของมิสซิสซิปปี้ และไม่เชื่อว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุครั้งนี้
ฟิล ไบรอันต์ ผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี้ ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นโศกนาฏกรรม แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
แอนดี้ โจนส์ เล่าว่า เขากำลังทำงานอยู่ในฟาร์มปลาดุกของครอบครัวช่วงก่อนเวลา 16.00 น. เล็กน้อย และตอนนั้นเองที่เขาได้ยินเสียงดังกึกก้อง เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เขาเห็นเครื่องบินควงสว่านและเครื่องยนต์ตัวหนึ่งมีควันพวยพุ่งออกมา
โจนส์เล่าต่อว่า เครื่องบินตกลงหลังแนวไม้ในไร่ถั่วเหลือง เมื่อเขาและคนอื่นๆ ไปถึงบริเวณที่เครื่องบินตก ปรากฏว่า ไฟลุกลามไหม้ซากเครื่องบินอย่างรุนแรง และแรงกระแทกทำให้ตัวเครื่องยุบเกือบแบนราบ
เขายังบอกอีกว่า ชายคนหนึ่งขอยืมโทรศัพท์มือถือโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า พบศพเกลื่อนกลาดบนทางหลวงสาย 82 ห่างจากบริเวณที่เครื่องบินตกกว่า 1 ไมล์ (1.6 กิโลเมตร)
โจนส์ทิ้งท้ายว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องชะลอการดับเพลิงจุดที่เครื่องบินตกหลังเกิดระเบิดขึ้นหนึ่งครั้ง ไฟที่ลุกไหม้รุนแรงทำให้เกิดควันดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าที่สามารถมองเห็นได้ไกลหลายกิโลเมตร ซึ่งไฟยังลุกไหม้ต่อเนื่องนานกว่า 4 ชั่วโมงหลังจากเครื่องบินตก
มาร์คัส แบงก์ส หัวหน้าดับเพลิงกรีนวูด เปิดเผยว่า ซากเครื่องบินกระจัดกระจายไปไกลอยู่ในรัศมี 8 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ รวมถึงไม่ได้ระบุต้นทางและจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินนี้แต่อย่างใด