รอยเตอร์ - เครื่องบินขับไล่ F-35 ของกองรบปีกที่ 56 ประจำฐานทัพอากาศ ลุค (Luke Air Force Base) ในรัฐแอริโซนา ถูกสั่งให้ยุติภารกิจขึ้นบินต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังปัญหาพบนักบินขับไล่เกิดปัญหาขาดออกซิเจนกะทันหันระหว่างขึ้นบิน
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) ว่า โฆษกกองทัพอากาศสหรัฐฯ กัปตัน มาร์ก แกรฟ (Mark Graff) แถลงในวันจันทร์ (12) ถึงการหยุดขึ้นบินอย่างไม่มีกำหนดของฝูงเครื่องบินรบขับไล่ F-35 ของกองรบปีกที่ 56 ประจำฐานทัพอากาศ ลุค (Luke Air Force Base) ในรัฐแอริโซนา เนื่องจากทางกองทัพยังไม่เสร็จสิ้นการประเมินปัญหาการจ่ายก๊าซออกซิเจนในห้องนักบิน
ทั้งนี้พบว่า ฐานทัพอากาศแห่งนี้มีฝูงเครื่องบินรบขับไล่ F-35 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นฐานทำการฝึกนักบินของกองทัพสหรัฐฯ และจากประเทศพันธมิตร
ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ตารางขึ้นฝึกบินต้องถูกยกเลิก และมีกำหนดให้ขึ้นบินใหม่อีกครั้งในวันจันทร์ (12) แต่กลับพบว่าในขณะนี้ ฝูงเครื่องบินรบขับไล่ F-35จะได้รับอนุญาตให้ขึ้นบินได้ก็ต่อเมื่อมีคำสั่งลงมาอีกครั้งเท่านั้น
ในปัจจุบันนี้พบมีเครื่องบินรบรุ่นนี้อยู่ทั่วโลกประมาณไม่ต่ำกว่า 220 ลำ ซึ่งแหล่งข่าวกองทัพอากาศสหรัฐฯ ให้ข้อมูลว่า การเกิดเหตุอยู่ในช่วงสำคัญสำหรับบริษัทผู้ผลิต ล็อกฮีดมาร์ติน ที่มีกำหนดจะสาธิตอากาศยาานรุ่นใหม่ในงานปารีสแอร์โชว์สัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม F-35 ที่ประจำฐานทัพอื่นๆ ทั่วสหรัฐฯ ยังคงสามารถปฏิบัติภารกิจได้ต่อไป
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) แกรฟได้แถลงถึงเหตุปัญหาที่เกิดขึ้นโดยระบุว่า ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 5 ครั้งพบนักบินฝูงขับไล่มีปัญหาการขาดออกซิเจน หรือที่เรียกว่า “ภาวะพร่องออกซิเจน (HYPOXIA)"
โดยทางกองทัพอากาศชี้ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย จนถึงวันพฤหัสบดี (8 มิ.ย.) และพบว่า ในแต่ละเคสที่ได้รับรายงาน กลับพบว่าระบบการจ่ายออกซิเจนนั้นทำงานปกติ และเครื่องสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งทางฐานทัพอากาศลุคกำหนดซ้อมบินประจำสัปดาห์ราว 25 ครั้ง อ้างอิงจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ประจำฐาน
และการสั่งยกเลิกภารกิจขึ้นบินครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทางกองทัพสามารถทำการค้นหาสาเหตุร่วมกับบรรดานักบินขับไล่ เจ้าหน้าที่แผนกเทคนิก และผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ โฆษกประจำฐานทัพอากาศลุค นาวาอากาศตรีหญิง รีเบกกา เฮซ (Rebecca Heyse) แถลง
ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิต ล็อกฮีดมาร์ตินยืนยันว่าจะส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมค้นหาสาเหตุกับกองทัพอากาศสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน ซึ่งจำนวนของเครื่องบิน F-35 ที่ผลิตโดยบริษัทแห่งนี้ และประจำอยู่ที่ฐานทัพอากาศลุคนั้นคิดเป็นสัดส่วน 25% หรือ 55 เครื่องของจำนวนล็อตทั้งหมดที่ทางล็อกฮีดมาร์ตินผลิตออกมา
