“ทรัมป์” มึน เจอศาลอุทธรณ์อีกแห่งระงับคำสั่งห้ามมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ

เอเอฟพี/MGR Online - ศาลอุทธรณ์แห่งหนึ่งของสหรัฐฯในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) พิพากษายืนระงับใช้คำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามพลเมือง 6 ชาติเดินทางเข้าอเมริกา ความปราชัยในกระบวนการยุติธรรมล่าสุดของมาตรการอันที่เป็นถกเถียงนี้

ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ของสหรัฐฯ พิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่ระงับคำสั่งแบนของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม ศาลบอกว่ามันเป็นสิทธิของรัฐบาลที่จะทบทวนกระบวนการคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าประเทศ

“เรื่องคนเข้าเมือง ไม่ใช่การฉายเดี่ยว แม้แต่ตัวประธานาธิบดี” คำพิพากษาระบุ “ประธานาธิบดีออกคำสั่งพิเศษเกินกว่าขอบเขตอำนาจที่เขาได้รับมอบจากสภาคองเกรส" และคำสั่งของ ปธน.ทรัมป์ได้ละเมิดบทบัญญัติที่ได้ห้ามการกีดกันทางด้านเชื้อชาติ

ศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยดังกล่าว หลังจากที่ได้พิจารณาคำตัดสินในเดือนมีนาคมของศาลชั้นต้นในรัฐฮาวายซึ่งได้มีคำตัดสินระงับคำสั่งของปธน.ทรัมป์

นอกจากนี้ คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 9 ของสหรัฐฯ ยังสอดคล้องกับคำตัดสินก่อนหน้านี้ของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ของสหรัฐฯ ในเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนียในวันที่ 25 พ.ค. ที่มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในรัฐแมรีแลนด์ที่ให้ยกเลิกคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์

คำพิพากษาของศาลมีขึ้นไม่นาน ก่อนถึงเส้นตายที่รัฐต่างๆ ที่คัดค้านคำสั่งแบน ต้องสรุปสำนวนยื่นต่อศาลฎีกาสหรัฐฯ ตามคำร้องของรัฐบาลทรัมป์ที่ขอให้ศาลรื้อฟื้นคำสั่งของประธานาธิบดี หลังเจอศาลหลายเขตสั่งระงับการบังคับใช้ทั่วประเทศ

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ทำการยื่นคำร้องฉุกเฉินต่อศาลฎีกาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ขอให้รื้อฟื้นคำสั่งห้ามพลเมืองจาก 6 ชาติมุสลิม อิหร่าน, ลิเบีย,โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรีย และเยเมนเดินทางเข้าประเทศเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งถูกสั่งเพิกถอนโดยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยืนยันว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจที่ชอบด้วยกฎหมายของประธานาธิบดีสหัฐฯ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการคุ้มครองประเทศจากการก่อการร้าย และดูแลความมั่นคงปลอดภัยในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตรงข้ามวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเป็นการเลือกปฏิบัติและละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ด้วยการเจาะจงเล่นงานประเทศมุสลิม

ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ลงนามคำสั่งแบนพลเมืองจากประเทศมุสลิมฉบับใหม่ ตัดลดเหลือเพียง 6 ประเทศ จาก 7 ประเทศในคำสั่งเดิมที่ถูกประกาศออกมาเมื่อเดือนมกราคม โดยอิรักเป็นประเทศเดียวที่ถูกถอดออกจากคำสั่งล่าสุด

คำประกาศใหม่โดยประธานาธิบดีนี้มีขึ้นหลัง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา คำสั่งแบนที่ถูกประกาศใช้ทันทีนั้นสร้างความวุ่นวายแก่หลายสนามบินในสหรัฐฯ ผู้ไม่เห็นด้วยออกมาประท้วงมากมาย และในที่สุดศาลรัฐบาลกลางจึงออกคำสั่งระงับคำสั่งดังกล่าว

ทำเนียบขาวออกมาอธิบายว่า คำสั่งใหม่นี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของสหรัฐล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับศาสนาหรือมุ่งเป้าโจมตีไปที่บรรดาชาวมุสลิมแต่อย่างใด ทั้งนี้ประเทศอิรักถูกถอดออกจากคำสั่งแบนของทรัมป์

ทั้งนี้ ประเทศอิรักถูกถอดออกจากคำสั่งแบนของทรัมป์ อันเป็นผลมาจากมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเดินทางข้ามแดนของอิรักที่เข้มงวด และไว้วางใจได้