รอยเตอร์ - เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) เรียกร้องบรรดาชาติอาหรับผ่อนปรนมาตรการปิดกั้นกาตาร์ และขอทุกฝ่ายหาทางบรรเทาความตึงเครียดที่ร้อนระอุขึ้นเมื่อตุรกีเสนอส่งทหาร เครื่องบินและเรือรบ เข้าไปช่วยพันธมิตรอย่างโดฮา ความเคลื่อนไหวที่สวนทางกับท่าทีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยบ่งชี้เลือกข้างซาอุดีอาระเบีย
ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อียิปต์ และ บาห์เรน เมื่อวันจันทร์ (5 มิ.ย.) ตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์ โดยกล่าวหาโดฮาสนับสนุนพวกก่อการร้ายและปลุกปั่นภูมิภาคให้ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ จากนั้นในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ก็ยกระดับการกดดันด้วยการใส่ชื่อบุคคลและองค์กรต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับกาตาร์ ในบัญชีดำก่อการร้าย
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า เขายืนอยู่ข้างซาอุดีอาระเบียและประเทศอื่นๆ ที่ตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์ ทว่า ในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา กลับแสดงความคิดเห็นที่สวนทางกับผู้นำรัฐบาลของเขาโดยสิ้นเชิง โดยแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน คาดหวังว่าทุกฝ่ายจะช่วยกันหยุดวิกฤตนี้
“เราเรียกร้องซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน และ อียิปต์ ผ่อนปรนการปิดล้อมกาตาร์” เขากล่าวในวอชิงตัน
ทิลเลอร์สัน บอกับผู้สื่อข่าว ณ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า วิกฤตนี้ที่มีการตัดการเชื่อมโยงด้านการขนส่งและการค้า เริ่มส่งผลกระทบอันเจ็บปวดแก่ประชาชนคนธรรมดาในกาตาร์ ก่อความเสียหายต่อการตกลงเจรจาธุรกิจ รวมถึงเป็นอันตรายกับศึกต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่นำโดยสหรัฐฯ
เขาเรียกร้องกาตาร์ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ใช้มาตรการต่างๆ สกัดการสนับสนุนก่อการร้าย ทั้งนี้ แม้ซาอุดีอาระเบียและชาติอื่นๆ ในอ่าวเปอร์เซียกล่าวหาโดฮาสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรง แต่ ทิลเลอร์สัน บ่งชี้ว่าทุกฝ่ายจำเป็นต้องทำมากกว่าที่เป็นอยู่
“เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ มีความคืบหน้าสำหรับยับยั้งการสนับสนุนด้านการเงินและขับไล่เครือข่ายก่อการร้ายออกนอกประเทศ แต่เขาต้องทำมากกว่านี้และต้องเร่งมือกว่านี้” ทิลเลอร์สัน กล่าว “ส่วนชาติอื่นๆ ก็ควรเดินหน้ากำจัดกลุ่มก๊กต่างๆ ที่สนับสนุนองค์กรหัวรุนแรงภายในพรมแดนของตนเองเช่นกัน”
ในเหตุการณ์ที่ดูเหมือนว่าวิกฤตกำลังลุกลามบานปลาย อัลจาซีราห์ สถานีโทรทัศน์ทรงอิทธิพลของกาตาร์ ซึ่งเคยก่อความขุ่เคืองแก่เหล่าผู้ปกครองโลกอาหรับบ่อยครั้ง รายงานว่าคอมพิวเตอร์ของพวกเขาถูกโจมตีทางไซเบอร์
ริยาด, ไคโร และ พันธมิตร กล่าวหากาตาร์ สนับสนุนความเคลื่อนไหวของพวกนักรบอิสลามิสต์ทั่วภูมิภาค จึงกำหนดมาตรการที่กาตาร์เรียกว่าเป็นการปิดล้อมด้านการขนส่งทางเรือ การสัญจรทางอากาศและปิดชายแดนติดกับกาตาร์ ก่อความตื่นตระหนก สับสนและกังวลแก่ประชาชนที่แห่ไปกักตุนอาหารและข้าวของตามซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ
กาตาร์ ปฏิเสธไม่ได้สนับสนุนพวกนักรบ โดยบอกว่าพวกเขาช่วยลดภัยคุกคามก่อการร้ายผ่านการสนับสนุนกลุ่มต่างๆ ที่ต่อสู้กับความยากจนและแสวงหาการปฏิรูปทางการเมือง
ทั้งนี้ กาตาร์ ประกาศว่า จะฝ่าฟันมาตรการโดดเดี่ยวที่กำหนดโดยชาติอาหรับอื่นๆ และบอกว่าจะไม่อ่อนข้ออำนาจอธิปไตยด้านนโยบายการต่างประเทศแก่หน้าไหน ในการแก่ไขวิกฤตทางการทูตในภูมิภาคครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี