รัฐสภาญี่ปุ่นผ่านกฎหมายไฟเขียว “พระจักรพรรดิ” สละราชสมบัติ

เอเอฟพี - สภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งในวันนี้ (2 มิ.ย.) ที่เปิดทางให้สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงสามารถสละราชสมบัติได้ ในขณะที่รัฐสภายังเรียกร้องให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิงในระอบบสถาบันกษัตริย์ที่ชายเป็นใหญ่ด้วย

ญี่ปุ่นไม่มีการสละราชสมบัติมาเป็นเวลาสองทศวรรษแล้วและไม่มีกฎหมายที่จะตอบสนองพระประสงค์ที่จะสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะวัย 83 พรรษาหลังจากทรงครองบัลลังก์ดอกเบญจมาศมานานเกือบ 30 ปี

สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะสร้างความตกตะลึงเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาเพื่อพระองค์ทรงลงพระปรมาภิไธยส่งมอบบัลลังก์ให้พระโอรสพระองค์โต มงกุฎราชกุมารนารุฮิโตะ โดยทรงอ้างถึงความชราและปัญหาสุขภาพของพระองค์ พระองค์ทรงเคยรับการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากและผ่าตัดพระหฤทัย

ร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าจะกลายเป็นกฎหมายในสัปดาห์หน้าหลังจากผ่านวุฒิสภา

การสละราชสมบัติต้องเกิดขึ้นภายใน 3 ปีเมื่อร่างกฎหมายนี้กลายเป็นกฎหมายมิเช่นนั้นมันก็จะหมดอายุ และมันใช้ได้กับสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะเท่านั้น

นักวิชาการและนักการเมืองบางคนกลัวว่า การแก้กฎหมายนี้ให้พระจักรพรรดิองค์ใดก็ตามสามารถสละราชสมบัติได้อาจทำให้สถาบันกษัตริย์ของญี่ปุ่นในอนาคตเสี่ยงอยู่ภายใต้การชักใยทางการเมือง

ญี่ปุ่นมีการสละราชสมบัติหลายครั้งในประวัติศาสตร์อันยาวนานแต่ครั้งสุดท้ายคือเมื่อกว่า 200 ปีที่แล้วและนักการเมืองต้องจัดทำร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่เพื่อทำให้มันเป็นไม่ได้เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติสำหรับเรื่องนี้ในกฎหมาย

สถานะของสมเด็จพระจักรพรรดิมีความอ่อนไหวอ่างมากในญี่ปุ่นเมื่อพิจารณาจากประวัติศาสตร์ของการก่อสงครามช่วงทศวรรษที่ 20 ในนามของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ พระบิดาของพระองค์ที่เสด็จสวรรคตในปี 1989

ประเด็นการสละราชสมบัติตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการสืบทอดราชบัลลังก์ในสถาบันกษัตริย์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

เมื่อเดือนเมษายนคณะรัฐมนตรีออกคำเตือนเกี่ยวกับการขาดแคลนทายาทเพศชาย ในวันนี้ (2) สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านมติไม่มีข้อผูกมัดที่เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาการให้ผู้หญิงมีบทบาทในสถาบันกษัตริย์มากขึ้น

พระบรมวงศานุวงศ์ที่เป็นผู้หญิงจะสูญเสียสถานะราชวงศ์เมื่อแต่งงานกับสามัญชน

กฎหมายนี้ไม่มีผลกับพระบรมวงศานุวงศ์ที่เป็นผู้ชาย โดยสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและพระโอรสของพระองค์ต่างแต่งงานกับสามัญชน และมีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่สามารถเป็นพระจักรพรรดิได้ ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะเคยถูกปกครองโดยจักรพรรดินีหลายคนในหลายศตวรรษที่ผ่านมาก็ตาม

เมื่อมกุฎราชกุมารนารุฮิโตะที่ทรงมีพระธิดาพรองค์เดียวสืบทอดราชบัลลังก์ พระอนุชาของพระองค์ อากิชิโนะ จะเป็นรัชทายาทพระองค์ต่อไป ตามด้วย ฮิซาฮิโตะ พระโอรสวัย 10 พรรษของอากิชิโนะ

แต่กลับไม่มีผู้ชายที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอีกหลังนั้น หมายความว่า การสืบสันตติวงศ์หลายร้อยปีจะสิ้นสุดลงหากฮิซาฮิโตะไม่มีพระโอรสในอนาคต