อิเหนาตัดสัมพันธ์ทางทหารกับออสซี่ สื่ออินโดฯเผยฉุนจัดที่โดนจิงโจ้ดูหมิ่น

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - อินโดนีเซียได้สั่งระงับความร่วมมือทางทหารทั้งหมดกับออสเตรเลีย หลังจากฝ่ายแดนอิเหนาพบเอกสารการฝึกซึ่งมีเนื้อหาที่เห็นกันว่าเป็นการดูถูกดูหมิ่นพวกตน ในค่ายแห่งหนึ่งของแดนจิงโจ้ที่ใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมนายทหารอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายระบุในวันพุธ (4 ม.ค.)

ความร่วมมือกันระหว่างฝ่ายทหารของประเทศทั้ง 2 ซึ่งรวมถึงโครงการฝึกร่วม โครงการทางการศึกษาและการแลกเปลี่ยนต่างๆ ได้ถูกระงับไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากนายทหารอินโดนีเซียผู้หนึ่งได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเอกสารการฝึกเหล่านี้ ซึ่งอยู่ในสถานอบรมภาษาแห่งหนึ่งของกองทัพบกออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศบอก ทว่ายังไม่มีการอธิบายให้ชัดเจนว่าจุดไหนของเอกสารที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นการดูหมิ่นขึ้นมา

ทั้งนี้ พล.ต. วุรยันโต โฆษกกองทัพอินโดนีเซีย แถลงยืนยันเรื่องระงับความร่วมมือกับกองทัพออสเตรเลีย โดยบอกว่า “สืบเนื่องจากเรื่องทางเทคนิค” แต่ก็กล่าวด้วยว่า เขาหวังว่าปัญหานี้จะ “ได้รับการแก้ไขในเร็วๆ นี้”

ขณะที่ รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย มาริเซ เพย์น ออกคำแถลงยอมรับเช่นกันว่า “ปฏิสัมพันธ์ในบางกรณีระหว่างองค์กรทางกลาโหมของทั้งสองฝ่ายได้ถูกระงับไปก่อน จนกว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไข” เธอกล่าวด้วยว่า ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ “วัสดุการสอนและข้อคิดเห็นบางอย่างบางประการ” ณ ศูนย์ฝึกอบรมด้านภาษา ทว่าไม่ได้อธิบายอะไรมากไปกว่านี้

ทางด้านหนังสือพิมพ์ คอมปาส ของอินโดนีเซียรายงานว่า ความบาดหมางคราวนี้บังเกิดขึ้นภายหลังผู้ฝึกสอนคนหนึ่งจากหน่วยรบพิเศษของแดนอิหนา ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน ได้ไปพบเอกสารการฝึกอบรมซึ่งเขาคิดว่ามีเนื้อหาที่แสดงถึงการไม่เคารพกองทัพอินโดนีเซีย

ผู้ฝึกสอนผู้นี้ยังไปพบเอกสารอื่นๆ ซึ่งเขามองว่ามีเนื้อหาลบหลู่ดูหมิ่น “หลักปัญจศีล” หรือหลัก 5 ประการที่ถือเป็นปรัชญารากฐานแห่งรัฐของอินโดนีเซีย

บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงออสเตรเลีย (เอบีซี) รายงานว่า หน่วยรบพิเศษของอินโดนีเซีย ซึ่งมีชื่อย่อในภาษาแดนอิเหนาว่า โคปัสซุส นั้น ทำการฝึกมาเป็นเวลาหลายปีแล้วกับหน่วยรบพิเศษทางอากาศของออสเตรเลีย ณ ค่ายทหารแคมป์เบล เมืองเพิร์ท รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย

เพย์นแถลงว่า พล.อ.อ.มาร์ก บินสกิน ผู้บัญชาการทหารออสเตรเลีย ได้เขียนจดหมายถึง พล.อ.กาต็อต นุรมันต์โย ผู้บัญชาการทหารอินโดนีเซียแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขคลี่คลาย

เธอกล่าวด้วยว่า การสอบสวนเรื่องนี้กำลังดำเนินอยู่ พร้อมกับให้คำมั่นว่า “เราจะทำงานกับฝ่ายอินโดนีเซียเพื่อฟื้นฟูการร่วมมือกันอย่างเต็มที่ขึ้นมาใหม่โดยเร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้”

ทว่าตามคำกล่าวของวุรยันโต ฝ่ายกองทัพอินโดนีเซียยังคงเดินหน้าระงับความสัมพันธ์เอาไว้ก่อนตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม โยฮาเนส สุไลมาน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกองทัพอินโดนีเซีย กล่าวให้ความเห็นว่าถึงแม้การระงับความสัมพันธ์คราวนี้ต้องถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ทว่าคงจะไม่ยาวนานอะไร เนื่องจากประเทศทั้งสองซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันนี้ มีเรื่องสำคัญยิ่งยวดที่จะต้องร่วมมือกัน เป็นต้นว่าความมั่นคง และการค้า

กองทัพออสเตรเลียกับอินโดนีเซียได้เคยมีสายสัมพันธ์อันตึงเครียดกันมาหลายครั้งแล้วเหมือนกันในอดีตที่ผ่านมา

ออสเตรเลียได้ระงับการฝึกให้โคปัสซุส จากการที่หน่วยรบชื่อดังแห่งนี้ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทในการละเมิดสิทธิมนุษยชนในติมอร์ตะวันออกเมื่อปี 1999 ซึ่งเวลานั้นยังคงเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของอินโดนีเซียที่พยายามต่อสู้เรียกร้องเอกราช ทว่าความสัมพันธ์นี้ก็ได้กลับคืนดีขึ้นมาใหม่หลังเวลาผ่านไปหลายปี

ต่อมาในปี 2013 อินโดนีเซียประกาศระงับการฝึกร่วมทางทหารกับออสเตรเลีย สืบเนื่องจากแดนอิเหนากล่าวหาว่าพวกสายลับแดนจิงโจ้พยายามที่จะแอบดักฟังโทรศัพท์ของ ซุซีโล บัมบัง ยุทโธโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซียในขณะนั้น แต่ถึงปี 2014 ความสัมพันธ์นี้ก็กลับฟื้นขึ้นมาใหม่

ช่วงปีหลังๆ นี้ ประเทศทั้งสองเกิดบาดหมางกันอีกจากการที่จาการ์ตาเดินหน้าประหารชีวิตชาวออสเตรเลียที่ลักลอบขนยาเสพติด ส่วนอินโดนีเซียก็ไม่พอใจนโยบายแข็งกร้าวของแคนเบอร์ราที่คอยผลักดันเรือผู้อพยพให้ถอยกลับคืนไปยังแดนอิเหนา

การระงับความสัมพันธ์ทางทหารคราวนี้ถือเป็นการวิวาทอย่างจริงจังครั้งแรกของประเทศทั้งสอง ภายหลังความสัมพันธ์ดูกระเตื้องดีขึ้นเรื่อยมา ตั้งแต่ที่ มัลคอล์ม เทิร์นบูล ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในปี 2015