รัฐสภาชุดใหม่เล็งล้มโอบามาแคร์ คาดถกดุเดือดตัวเลือก ครม.ทรัมป์

เอเจนซีส์ - รัฐสภาชุดใหม่แดนอินทรีที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกัน เล็งยกเลิกประเด็นสำคัญมากมายในโอบามาแคร์ รวมทั้งกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมและการเงิน แต่อาจถูกดึงเข้าสู่การห้ำหั่นเผ็ดร้อนเรื่องตัวเลือกในคณะรัฐมนตรีของว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างรวดเร็ว กระนั้น แม้อาจไม่ผ่านความเห็นชอบทั้งหมด แต่คาดว่าผู้ที่ถูกเสนอชื่อเหล่านี้จะได้รับการรับรองเป็นส่วนใหญ่

จากผลสำรวจของแกลลัปที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันจันทร์ (2) ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 เดือนนี้ โดยที่มีชาวอเมริกันไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่เชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถรับมือวิกฤตระหว่างประเทศ ใช้กำลังทหารอย่างชาญฉลาด หรือป้องกันการละเมิดจริยธรรมขั้นรุนแรงในคณะบริหารของตนเอง

วันเดียวกันนั้น แกนนำพรรคเดโมแครต เตือนว่า จะมีการต่อสู้ดุเดือดในประเด็นโอบามาแคร์ ที่คาดว่า มีประชาชน 13.8 ล้านคน สมัครเข้าร่วมโปรแกรม ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อให้การประกันสุขภาพแก่ผู้ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจและเพื่อขยายความคุ้มครองสำหรับคนกลุ่มอื่นๆ

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา นัดแนะสมาชิกพรรคเดโมแครตในวันพุธ (4) เพื่อหารือกลยุทธ์ป้องกันการโจมตีโอบามาแคร์ของรีพับลิกัน

ว่าที่รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ จะประชุมกับสมาชิกพรรครีพับลิกันเพื่อรณรงค์ให้ร่วมกันล้มโอบามาแคร์ในวันพุธเช่นกัน

ในช่วงหลายสัปดาห์นับจากนี้ รีพับลิกันจะพยายามผลักดันร่างกฎหมายผ่านรัฐสภา โดยใช้กระบวนการที่ไม่ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากเดโมแครต ทั้งนี้ คาดว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยออกมานั้น มีเป้าหมายเพื่อยกเลิกโอบามาแคร์ แต่จะเลื่อนการเพิกถอนออกไป 2-3 ปีและยังคงข้อกำหนดสำคัญบางประการไว้

แนนซี เปโลซี และ สเตนี โฮเยอร์ ผู้นำหมายเลขหนึ่งและสองของเดโมแครตในสภาล่าง เผยว่า จะเริ่มระดมการสนับสนุนจากระดับรากหญ้าเพื่อปกป้องกฎหมายประกันสุขภาพ (ACA) หรือ โอบามาแคร์ ด้วยการอธิบายว่า การล้มเลิกกฎหมายนี้อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อชาวอเมริกันส่วนใหญ่

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รีพับลิกันระดมโจมตีว่า โอบามาแคร์ไร้ประสิทธิภาพ บ่อนทำลายการจ้างงาน แต่เพิ่งจะมาตอนนี้ที่พรรคนี้สามารถผ่านกฎหมายเพื่อเพิกถอน ACA เนื่องจากครองเสียงข้างมากทั้งในสภาสูงและสภาล่าง

นอกจากโอบามาแคร์แล้ว รีพับลิกันยังต้องการยกเลิก หรือขัดขวางกฎหมายที่มุ่งควบคุมการปล่อยไอเสียของภาคอุตสาหกรรม และการปฏิรูปการธนาคารที่ผ่านการรับรองของสภาหลังจากวอลล์สตรีทจวนเจียนล้มเมื่อหลายปีก่อน รวมทั้งการแก้ไขกฎหมายภาษีเพื่อหยุดยั้งบริษัทอเมริกันในการโอนย้ายตำแหน่งงานออกนอกประเทศ

อย่างไรก็ดี ปีใหม่นี้วุฒิสภามีภารกิจมากกว่าการผลักดันกฎหมาย แต่ยังมีงานท้าทายในการอภิปรายและลงมติรับรองผู้ได้รับเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ รวมทั้งตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ในคณะบริหารที่มีการประกาศออกมาแล้วก่อนหน้านี้ รวมทั้งยังเป็นที่คาดว่า ว่าที่ประมุขทำเนียบขาวจะเสนอชื่อผู้พิพากษาศาลสูงเร็วๆ นี้อันจะนำไปสู่การต่อสู้ดุเดือดในสภาเช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ จอห์น แม็กเคน วุฒิสมาชิกชั้นนำจากรีพับลิกัน เตือนว่า เร็ก ทิลเลอร์สัน ตัวเลือกของทรัมป์ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ จะต้องอธิบายความสัมพันธ์ที่มีกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่แม็กเคนตราหน้าว่าเป็น “อันธพาลและฆาตกร”

ทิลเลอร์สัน นายใหญ่เอ็กซอน โมบิล ติดต่อค้าขายกับรัสเซียและคัดค้านมาตรการลงโทษของอเมริกาจากกรณีที่รัสเซียผนวกไครเมีย

ขณะเดียวกัน คาดว่า เดโมแครตจะคัดค้านการเสนอชื่อ เจฟฟ์ เซสชันส์ ในตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม ส่วนหนึ่งเนื่องจากเซสชันส์ต่อต้านการเข้าเมือง และเคยแสดงความคิดเห็นที่ส่อถึงการขาดไหวพริบด้านเชื้อชาติ

นอกจากนั้น เดโมแครตยังเล็งโจมตีการเสนอชื่อ สตีเวน มนูซิน อดีตนายแบงก์ที่ทำงานให้โกลด์แมน แซคส์ ถึง 17 ปี ในตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง โดยอ้างอิงคำมั่นของทรัมป์ระหว่างการหาเสียงที่ว่าจะ “ล้างบาง” กลุ่มผลประโยชน์พิเศษในวอชิงตัน โดยเฉพาะบรรดาผู้ทรงอิทธิพลในวอลล์สตรีท

กระนั้น เป็นที่คาดว่า ผู้ที่ทรัมป์เสนอชื่อจะได้รับการรับรองเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ทุกคนก็ตาม