เอเอฟพี - โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ออกมาทวีตข้อความปรามาสเกาหลีเหนือว่า “ไม่มีวัน” ที่จะส่งขีปนาวุธนิวเคลียร์มาโจมตีแผ่นดินอเมริกาได้สำเร็จ เมื่อวานนี้ (2 ม.ค.)
คำแถลงของ ทรัมป์ มีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่ผู้นำ คิม จอง อึน ประกาศในสุนทรพจน์ปีใหม่ว่า โครงการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ของโสมแดงนั้นคืบหน้ามาถึง “ขั้นตอนสุดท้าย” (final stages) ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการขู่กลายๆ ให้รัฐบาล ทรัมป์ ปรับจุดยืนเป็นมิตรต่อเกาหลีเหนือมากขึ้น
“เกาหลีเหนือแค่บอกว่าโครงการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่อาจจะเดินทางมาถึงดินแดนบางส่วนของสหรัฐฯ คืบหน้ามาถึงขั้นตอนสุดท้าย... แต่นั่นไม่มีวันเกิดขึ้นได้!” ทรัมป์ ระบุ
วอชิงตันเคยย้ำหลายครั้งว่าจะไม่มีวันยอมให้เกาหลีเหนือกลายเป็นรัฐนิวเคลียร์ แต่ตัวของ ทรัมป์ เองไม่เคยระบุอย่างชัดเจนว่าจะมีนโยบายต่อเกาหลีเหนืออย่างไร
ตั้งแต่ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์วัย 70 ปีก็ใช้ทวิตเตอร์เป็นสื่อแสดงความคิดเห็นและตอบโต้พวกนักวิจารณ์ และบางครั้งก็พูดถึงประเด็นด้านความมั่นคงร้ายแรง จนนักวิเคราะห์ต่างออกมาทำนายทายทักว่านโยบายของสหรัฐฯ จะมุ่งไปในทิศทางใด หลังจากที่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวในวันที่ 20 ม.ค.
เมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์ ทวีตข้อความว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้อง “ขยายศักยภาพนิวเคลียร์ให้แข็งแกร่งกว่าเดิม” หลังจากที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียก็ได้สั่งให้กระทรวงกลาโหมหมีขาวกระทำอย่างเดียวกัน
เศรษฐีปากร้ายยังเคยประณามเรื่องที่จีนปั่นค่าเงินหยวนและขยายแสนยานุภาพทางทหารในทะเลจีนใต้ และล่าสุดก็ได้ออกมายั่วโทสะจีนซ้ำอีก โดยวิจารณ์บทบาทของปักกิ่งในการควบคุมพฤติกรรมก้าวร้าวของเกาหลีเหนือ
“จีนสูบทรัพย์สินเงินทองไปจากสหรัฐฯ มากมายมหาศาลจากการค้าขายแบบเอากำไรฝ่ายเดียว แถมยังไม่ช่วยกำราบเกาหลีเหนือด้วย... ดีซะจริง!”
ในสุนทรพจน์ปีใหม่ความยาว 30 นาทีซึ่งถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ (1) ผู้นำคิมอ้างว่าเปียงยางได้ผงาดเป็น “มหาอำนาจนิวเคลียร์” แล้ว และขณะนี้ก็เป็น “มหาอำนาจด้านการทหารในโลกตะวันออก ที่แม้แต่ศัตรูที่เข้มแข็งที่สุดก็ไม่อาจแตะต้องได้”
คิม ยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ “ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ และยุตินโยบายก้าวร้าวต่อเกาหลีเหนือ” ทว่าไม่ได้เอ่ยถึงว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตรงๆ
เปียงยางยังไม่เคยนำขีปนาวุธ ICBM ออกมายิงให้ทั่วโลกประจักษ์ในความสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์ยังสรุปตรงกันไม่ได้ว่าพวกเขาก้าวหน้าไปถึงขั้นไหนแล้ว
เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ 2 ครั้ง และยังนำขีปนาวุธรุ่นต่างๆ ออกมาทดลองยิงเป็นว่าเล่นในปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่การสร้างระบบขีปนาวุธที่สามารถส่งหัวรบนิวเคลียร์ไปโจมตีได้ถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ
แท ยอง-โฮ อดีตเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำอังกฤษซึ่งตัดสินใจหลบหนีมายังกรุงโซลเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ระบุว่า ผู้นำคิมตั้งใจจะฉวยโอกาสช่วงที่มีการผลัดเปลี่ยนตัวผู้นำในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในปี 2017 เร่งรัดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์