เอเจนซีส์ - ตำรวจตุรกีเผยภาพใบหน้าชายต้องสงสัยกราดยิงไนต์คลับในนครอิสตันบูลเมื่อวันขึ้นปีใหม่ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว 8 ราย ทว่ามือปืนตัวจริงยังคงลอยนวล
เมื่อวานนี้ (2 ม.ค.) กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมาอ้างว่าเหตุกราดยิงนักเที่ยวดับ 39 ศพที่ไนต์คลับไรนา (Reina) เป็นฝีมือ “ทหารรัฐคอลีฟะห์” ซึ่งใช้ทั้งระเบิดมือและปืนเข้าไปปลิดชีพนักเที่ยวที่กำลังเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่
ไอเอสยังประณามรัฐบาลตุรกีว่ากำลังทำงานรับใช้ “ชาวคริสต์” ซึ่งน่าจะหมายถึงการที่อังการาร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ โจมตีฐานที่มั่นไอเอสทั้งในอิรักและซีเรีย
ตุรกียังร่วมมือกับรัสเซียผลักดันข้อตกลงหยุดยิง เพื่อปูทางไปสู่การเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และฝ่ายกบฏ
การสังหารหมู่ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังย่างเข้าสู่ปี 2017 ได้เพียงชั่วโมงเศษๆ โดยก่อนหน้านั้น อิสตันบูล อังการา และอีกหลายเมืองในตุรกีก็เผชิญเหตุโจมตีต่อเนื่องตลอดปี 2016 จนมีผู้เสียชีวิตไปหลายร้อยคน ซึ่งมีทั้งไอเอสและกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดที่ออกมาอ้างความรับผิดชอบ
แม้ไอเอสจะประกาศชัดเจนว่าทำไปเพื่อแก้แค้นที่ตุรกีส่งทหารเข้าไปในเขตแดนซีเรีย เพื่อขับไล่นักรบไอเอสและกลุ่มติดอาวุธเคิร์ดออกไปจากบริเวณพรมแดน แต่ล่าสุดรัฐบาลอังการายืนยันว่า ปฏิบัติการทางทหารในซีเรียภายใต้รหัส “ยูเฟรติส ชิลด์” จะต้องดำเนินต่อไป
“เราจะปฏิบัติภารกิจข้ามพรมแดนและยูเฟรติส ชิลด์ ด้วยความมุ่งมั่นต่อไป” นูมาน กูร์ตุลมุส รองนายกรัฐมนตรีตุรกีให้สัมภาษณ์ หลังจากประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นการด่วน
ข้อมูลจากทางตำรวจระบุว่า มือปืนได้โดยสารแท็กซี่มายังไนต์คลับไรนาซึ่งตั้งอยู่ริมช่องแคบบอสพอรัสฝั่งยุโรป จากนั้นจึงชักอาวุธปืนคาลาชนิคอฟออกมายิงใส่ตำรวจ และพลเรือนอีก 1 คน ตรงประตูทางเข้า
มือปืนรายนี้ได้สาดกระสุน 4 แมกกาซีน รวม 120 นัด ใส่ผู้คนในคลับที่มีอยู่ประมาณ 700 คน ทำให้นักเที่ยวบางรายต้องกระโดดหนีตายลงไปในน้ำที่เย็นจัดของช่องแคบบอสพอรัส
หลังจากนั้นมือปืนได้เปลี่ยนเสื้อผ้า และอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ
แม้ตำรวจจะยังไม่สามารถติดตามตัวมือปืนรายนี้ได้ แต่ กูร์ตุลมุส ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐาน และรอยนิ้วมือของคนร้ายมาแล้ว
ตำรวจต่อต้านก่อการร้ายได้จับกุมผู้ต้องสงสัยรวม 8 คน แต่ล่าสุดยังไม่พบความเชื่อมโยงกับมือปืน ขณะที่รองนายกฯ ตุรกีก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องที่ไอเอสออกมาอ้างผลงาน
หนังสือพิมพ์รายวันฮูร์ริเย็ต รายงานว่า ตำรวจและหน่วยข่าวกรองตุรกีเชื่อว่ามือปืนรายนี้มีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส และน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่กราดยิงและใช้ระเบิดฆ่าตัวตายถล่มสนามบินอตาเติร์กเมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 47 ราย
เจ้าหน้าที่ยังได้เบาะแสมาว่า คนร้ายอาจเดินทางมาจากประเทศแถบเอเชียกลาง เช่น คีร์กีซสถาน หรือไม่ก็อุซเบกิสถาน
ด้านหนังสือพิมพ์ เยนี อากิต ซึ่งเป็นสื่อโปรรัฐบาลตุรกีก็ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลฯ หลังโพสต์ข้อความพาดหัวว่า สหรัฐฯ คือ “ผู้ต้องสงสัยเบอร์หนึ่ง”