เอเอฟพี - สหรัฐฯ แถลงประณามทันควันเมื่อวานนี้ (1 ม.ค.) พร้อมเตือนเกาหลีเหนือให้ยุติการกระทำยั่วยุ หลังจากที่ผู้นำ คิม จองอึน ออกมาขู่รับปีใหม่ว่ากำลังเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (Intercontinental ballistic missile - ICBM)
ถ้อยแถลงของวอชิงตันครั้งนี้เลือกใช้ถ้อยคำรุนแรงเป็นพิเศษ โดยเรียกร้องให้ “ทุกประเทศ” แสดงให้เกาหลีเหนือรับรู้ว่า การกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายจะต้องได้รับผลตอบสนอง
คำขู่ของ คิม จองอึน มีขึ้นในขณะที่การเมืองในสหรัฐฯ เดินมาถึงช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน เนื่องจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะต้องส่งมอบอำนาจให้แก่ โดนัลด์ ทรัมป์ ในอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์
ผู้นำเกาหลีเหนือถือโอกาสในการกล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับปีใหม่ 2017 ประกาศว่าโครงการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่สามารถถล่มเป้าหมายในสหรัฐฯ ได้นั้น คืบหน้าถึง “ขั้นสุดท้าย” ใกล้ความสำเร็จเข้ามาทุกขณะ
“การทดสอบระบบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปได้ดำเนินมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว” คิม กล่าว
ผู้นำโสมแดงเผยด้วยว่า รัฐคอมมิวนิสต์โดดเดี่ยวของเขาได้ผงาดเป็น “มหาอำนาจนิวเคลียร์” แล้ว และขณะนี้ก็เป็น “มหาอำนาจด้านการทหารในโลกตะวันออก ที่แม้แต่ศัตรูที่เข้มแข็งที่สุดก็ไม่อาจแตะต้องได้”
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า “คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีมติห้ามเกาหลีเหนือใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธทุกรูปแบบ” และเตือนให้เปียงยาง “หยุดการกระทำยั่วยุและคำพูดก้าวร้าวที่จะบั่นทอนสันติภาพและความมั่นคงของนานาชาติ”
เพนตากอนยังย้ำด้วยว่า สหรัฐฯ “มีเจตนารมณ์แนวแน่ที่จะปกป้องชาติพันธมิตรด้วยศักยภาพด้านการป้องปรามอย่างเต็มรูปแบบ”
เปียงยางยังไม่เคยนำขีปนาวุธ ICBM ออกมายิงให้ทั่วโลกประจักษ์ในความสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์ยังสรุปตรงกันไม่ได้ว่าพวกเขาก้าวหน้าไปถึงขั้นไหนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทุกคนลงความเห็นว่า เทคโนโลยีด้านอาวุธของโสมแดงก้าวหน้าไปอย่างมาก นับตั้งแต่ คิม จองอึน ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดต่อจากบิดาเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2011
