‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ตัดสินใจยุบเลิกมูลนิธิของตนเอง หลังฉาวโฉ่ถูกตรวจสอบหนักหน่วง

รอยเตอร์/เอเอฟพี - ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงในวันเสาร์ (24 ธ.ค.) ว่า เขาตั้งใจที่จะยุบเลิกมูลนิธิการกุศลของเขาที่มีชื่อว่า “มูลนิธิ โดนัลด์ เจ. ทรัมป์” ซึ่งกำลังถูกสอบสวนจากสำนักงานอัยการมลรัฐนิวยอร์ก

ทรัมป์ไม่ได้แจ้งวันเวลาที่จะปิดมูลนิธิแห่งนี้ แต่กล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งว่าเขาต้องการ “หลีกเลี่ยงไม่ให้มีแม้กระทั่งสิ่งที่อาจดูเหมือนเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนกับบทบาทในฐานะประธานาธิบดีของผมขึ้นมา” ดังนั้นเขาจึงสั่งการให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขา ดำเนินขั้นตอนที่จำเป็นต่างๆ เพื่อการยุบเลิกดังกล่าว

ในขณะที่เหลืออีกไม่ถึง 4 สัปดาห์ก็จะถึงวันสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ในแถบนิวยอร์กผู้นี้กำลังตกอยู่ใต้แรงบีบคั้นกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ให้ลดทอนสิ่งซึ่งอาจกลายเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ไล่ตั้งแต่การดำเนินการทางธุรกิจอันใหญ่โตครอบคลุมไปทั่วโลกของเขา จนถึงกิจการงานการกุศลของครอบครัวของเขา

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทรัมป์บอกว่า อีริก บุตรชายของเขาจะยุติการระดมหาเงินเพื่อเข้ามูลนิธิของตนเอง สืบเนื่องจากความกังวลที่ว่าผู้ที่บริจาคอาจถูกมองว่ากำลังพยายามซื้อหนทางที่จะเข้าไปถึงตัวครอบครัวทรัมป์ โดยว่าที่ประธานาธิบดีโพสต์ในทวิตเตอร์ว่า มันเป็น “ความน่าอายอันน่าหัวเราะเยาะ” ในการที่มูลนิธิของบุตรชายของเขาจะต้องยุติการระดมหาเงินบริจาค

ก่อนที่ทรัมป์สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนนั้น อัยการรัฐนิวยอร์ก อีริก ชไนเดอร์มาน ได้ออกคำสั่งในเดือนตุลาคมให้มูลนิธิโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ยุติการรับเงินบริจาค โดยระบุว่าทางมูลนิธิละเมิดกฎหมายของมลรัฐซึ่งกำหนดว่ามูลนิธิการกุศลที่จะรับเงินบริจาคจากบุคคลภายนอกนั้นต้องจดทะเบียนกับทางมลรัฐเสียก่อน

ชไนเดอร์มานออกคำสั่งดังกล่าวหลังจากมีรายงานข่าวต่อเนื่องเป็นชุดใหญ่ในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นพฤติการณ์อันไม่เหมาะสมของมูลนิธิแห่งนี้ เป็นต้นว่า การใช้เงินทุนของทางมูลนิธิเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประนอมข้อพิพาททางกฎหมายซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจต่างๆ ของทรัมป์

รายงานอีกชิ้นหนึ่งของวอชิงตันโพสต์บอกว่า ทรัมป์นำเอาเงินของเขาเองมาให้แก่มูลนิธิแห่งนี้เพียงแค่ส่วนเสี้ยวของจำนวนซึ่งเขาสัญญาที่จะบริจาค และเขากระทำเช่นนั้นภายหลังมีแรงกดดันในหมู่สาธารณชนให้เขาทำตามคำมั่นที่จะควักเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้แก่กลุ่มไม่หวังผลกำไรของทหารผ่านศึก

โฆษกผู้หนึ่งของสำนักงานอัยการรัฐนิวยอร์กแถลงในวันเสาร์ (24) ว่า ทรัมป์ยังไม่สามารถปิดมูลนิธิแห่งนี้ได้ ในขณะที่การสอบสวนยังกำลังดำเนินอยู่

“มูลนิธิทรัมป์แห่งนี้ยังคงถูกสอบสวนจากสำนักงานอัยการแห่งนี้ และไม่สามารถที่จะยุบเลิกตามกฎหมายได้จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น” โฆษก เอมี สปิตัลนิก แถลง เธอไม่ขอแสดงความเห็นใดๆ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับระยะเวลาที่คาดหมายว่าจะต้องใช้เพื่อการดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสมบูรณ์

ตัวทรัมป์กล่าวในวันเสาร์ (24) ว่า เขา “ภาคภูมิใจมาก” กับเงินที่ระดมได้มาโดยมูลนิธิของเขา พร้อมกับคุยว่า มูลนิธิแห่งนี้ดำเนินงาน “อย่างไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เลยเมื่อว่ากันถึงสาระสำคัญ เป็นเวลายาวนานหลายสิบปี”

“แต่เพราะผมจะต้องอุทิศเวลาและพลังงานอย่างมากมายเหลือเกินไปกับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและการแก้ไขปัญหาจำนวนมากที่เผชิญหน้าประเทศชาติของเราและโลกอยู่” เขากล่าวต่อไปในคำแถลงของเขา “ผมไม่ต้องการที่จะยินยอมให้งานดีๆ ต้องมาพัวพันกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนขึ้นมา”

ทั้งนี้ มูลนิธิโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1988 ไม่ได้มีโปรแกรมของตนเองเลย ตรงกันข้ามทางมูลนิธิใช้วิธีบริจาคให้แก่กลุ่มไม่หวังผลกำไรกลุ่มอื่นๆ เป็นต้นว่า สันนิบาตกีฬาตำรวจเพื่อเยาวชน (Police Athletic League for youths)

ครอบครัวทรัมป์เผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์

การขุดเจาะตรวจตรากิจกรรมต่างๆ ในด้านการกุศลของครอบครัวทรัมป์ทวีความเข้มข้นขึ้นในระยะไม่กี่สัปดาห์หลังมานี้ ภายหลังจากมีรายงานข่าวหลายชิ้นในเรื่องที่ว่าการบริจาคทำให้ผู้ออกเงินมีช่องทางเข้าถึงครอบครัวทรัมป์

อีริก ทรัมป์ เผชิญเสียงวิจารณ์จากรายการประมูลผ่านทางออนไลน์ที่มีมูลนิธิของเขาเป็นสปอนเซอร์ เพื่อระดมหาเงินมาช่วยเหลือเด็กๆ ที่เจ็บป่วยหนัก ณ โรงพยาบาลวิจัยเด็กเซนต์จูด โดยที่รางวัลสำหรับผู้เสนอราคาประมูลสูงที่สุดคือ การมีโอกาสดื่มกาแฟกับ อีวังกา น้องสาวของเขา

หลังจากการประกาศว่าอีริกจะไม่ได้รับอนุญาตให้ระดมหาเงินเข้ามูลนิธิของตนแล้ว ทรัมป์ได้ทวีตว่า “เขารักเด็กเหล่านี้ หาเงินเป็นล้านๆ ดอลลาร์ให้พวกเขา แต่ตอนนี้ต้องหยุดแล้ว นี่เป็นคำตอบที่ไม่ถูกต้องเลย!”

อย่างไรก็ดี พวกที่วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ตอบโต้ด้วยการเตือนความจำถึงวิธีการซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีผู้นี้ได้เคยทำการโจมตีอย่างหนักหน่วงต่อ ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งขันจากพรรคเดโมแครตของเขา และอดีตประธานาธิบดี บิลล์ คลินตัน สามีของเธอ เกี่ยวกับการหาเงินเข้ามูลนิธิของครอบครัวพวกเขา โดยที่เมื่อเดือนสิงหาคมทรัมป์ได้เรียกร้องกระทรวงยุติธรรมให้เข้าสอบสวนมูลนิธิคลินตันเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่ผู้บริจาคเข้ามูลนิธิรายหนักๆ จะได้รับการเกื้อหนุนต่างๆ จากกระทรวงการต่างประเทศ ในยุคที่คลินตันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงนั้นอยู่

อีริก ทรัมป์ และพี่ชายคือ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ยังถูกตำหนิอย่างแรงในสัปดาห์ที่แล้วจากบทบาทของพวกเขาในเรื่องงานเลี้ยงรับรองเพื่อการกุศลภายหลังพิธีสาบานตัวรับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีของผู้เป็นบิดา โดยที่พวกเขาเสนอว่าผู้บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์จะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากทรัมป์

พี่น้องคู่นี้ปรากฏชื่ออยู่ในร่างจดหมายเชิญ ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ร่วมของคณะผู้ระดมทุนเพื่อการกุศลทางด้านการอนุรักษ์ โดยที่งานเลี้ยงรับรองดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นในกรุงวอชิงตัน 1 วันหลังวันสาบานตัว 20 มกราคม

เมื่อวันอังคาร (20) ทีมงานรับมอบอำนาจประธานาธิบดีของทรัมป์ออกมาแถลงว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ และอีริก ทรัมป์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการระดมหาเงินบริจาคนี้ และจดหมายเชิญตัวจริงของงานนี้ก็ตัดทิ้งข้อความซึ่งเอ่ยเรื่องผู้บริจาคจะได้พบปะกับสมาชิกคนหนึ่งคนใดของครอบครัวทรัมป์