เอเอิฟพี/ซีเอ็นเอ็น - โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันศุกร์ (23 ธ.ค.) เผยแพร่จดหมายที่ได้รับจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งเรียกร้องผูกสัมพันธ์อันเป็นมิตรกันระหว่างสองชาติมหาอำนาจคู่อริ ความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นหลังจากผู้นำรัสเซียออกมาคลายความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ ระหว่างมอสโก กับวอชิงตัน
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซียดำดิ่งสู่ขั้นเลวร้ายสุด นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น ด้วยประธานาธิบดี บารัค โอบามา กำหนดมาตรการคว่ำบาตรมอสโก ตอบโต้กรณีที่เครมลินเข้าแทรกแซงในซีเรีย และยูเครน
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ได้เรียกร้องหลายต่อหลายครั้งระหว่างการหาเสียงให้ปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ พร้อมบ่งชี้ว่า จะร่วมมือกับปูตินในการต่อสู้กับพวกหัวรุนแรงอิสลามิสต์
ในจดหมายของปูติน ที่แปลและเผยแพร่โดยสำนักงานของทรัมป์ ระบุว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการรับประกันเสถียรภาพและความมั่นของโลกสมัยใหม่” และ “มันเรียกว่าเป็นก้าวย่างที่แท้จริงในการฟื้นฟูกรอบการทำงานของความร่วมมือทวิภาคีในขอบเขตต่างๆ”
ทรัมป์ ขานรับด้วยบอกว่า “เป็นจดหมายที่เลิศเลอจาก วลาดิมีร์ ปูติน ความคิดของเขาถูกต้องที่สุด ผมหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถดำเนินการตามความคิดนี้ และเราจะไม่เดินทางไปในเส้นทางอื่น” ทรัมป์กล่าว
การเปิดเผยจดหมายนี้มีขึ้นหนึ่งวันหลัง ทรัมป์ และปูติน ต่างประกาศเพิ่มแสนยานุภาพอาวุธนิวเคลียร์แก่ประเทศตนเอง อย่างไรก็ตาม ปูติน ออกมากลบกระแสความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างสองชาติในวันศุกร์ (23 ธ.ค.) โดยบอกว่าความเห็นของว่าที่ประธานาบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพทางนิวเคลียร์ “ไม่ใช่เรื่องใหม่”
ในเรื่องนี้ ปูติน กล่าวระหว่างแถลงข่าวประจำปีที่กินเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ว่า “ความเห็นของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่มีอะไรใหม่ ระหว่างการหาเสียงของเขา เขาบอกว่าอเมริกาจำเป็นต้องเสริมแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์และกองทัพโดยทั่วไป ไม่มีอะไรใหม่”
เมื่อถูกถามว่า เขาจะพูดคุยเรื่องใด หากมีโอกาสพบปะกับทรัมป์เป็นครั้งแรก “เราจำเป็นต้องหารือถึงแนวทางต่างๆ ในการคืนสัมพันธ์อันปกติ ระหว่างการหาเสียง ทรัมป์บอกว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะคืนสู่ระดับปกติ และมันไม่อาจเลวร้ายลงไปกว่านี้ ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับเขา”
ในวันพฤหัสบดี (22 ธ.ค.) ปูติน บอกว่า กองทัพรัสเซียจะแข็งแกร่งกว่าผู้รุกราน และในเวลาต่อมาทรัมป์โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ ว่า “สหรัฐฯ ต้องเสริมความเข้มแข็งและขยายแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์ยิ่งขึ้น จนกว่าจะถึงเวลาที่โลกได้สติในเรื่องของนุก”
เมื่อถูกขอให้ชี้แจ้งคำพูดของเขา ทรัมป์ตอบผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (23 ธ.ค.) ว่า “อยากแข่งขันสะสมอาวุธก็เอาเลย เราจะได้เปรียบพวกเขาในทุกทางและเราจะเป็นผู้ชนะ”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ปูติน บอกว่า เขาไม่ได้มองสหรัฐฯในฐานะผู้รุกรานและเพียงพูดถึงประเทศต่างๆ ที่เขาคิดว่าอาจดำเนินการโจมตีรัสเซียจริง “ผมรู้สึกแปลกใจกับถ้อยแถลงจากผู้แทนบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐฯปัจจุบัน ที่อ้างเหตุผลพิสูจน์ว่ากองทัพสหรัฐฯมีแสนยานุภาพมากที่สุดในโลก” ปูติน อ้างถึงความเห็นของกระทรวงต่างประเทศอเมริกาในวันพฤหัสบดี (22 ธ.ค.) “ไม่มีใครโต้แย้งเรื่องนี้หรอก”
ด้านโฆษกของวังเครมลินก็แสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกับปูติน โดยระบุว่ารัสเซียไม่เคยริเริ่มการแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์และจะไม่มีทางทำแบบนั้น