เอเจนซีส์ - ศาลเกาหลีใต้สั่งออกหมายจับบุตรสาวของเพื่อนสนิทประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ซึ่งเป็นศูนย์กลางคดีทุจริตอื้อฉาวในวันนี้ (21 ธ.ค.) พร้อมกับที่พนักงานสอบสวนได้บุกค้นสำนักงานบริการบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (NPS) เพื่อหาหลักฐานที่อาจเชื่อมโยงถึงพฤติกรรมคอร์รัปชันซึ่งทำให้ผู้นำหญิงถูกรัฐสภาลงมติถอดถอน
อัยการพิเศษเกาหลีใต้ได้เริ่มต้นสอบสวนคดีทุจริตและใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งอาจทำให้ พัค วัย 64 ปี ต้องกลายเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกขับออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ
รัฐสภาเกาหลีใต้มีมติยื่นฟ้องถอดถอนประธานาธิบดีหญิงแล้ว แต่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าจะดำเนินการตามนั้น หรือคัดค้าน
ล่าสุดวันนี้ (21) ศาลได้ออกหมายจับ ชุง ยู-รา บุตรสาววัย 20 ปีของ ชอย ซุน-ซิล เพื่อนหญิงประธานาธิบดี ซึ่งเวลานี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเพื่อรอการไต่สวนคดีฉ้อโกงและใช้อำนาจโดยมิชอบ
ทนายของ ชุง อ้างว่า เธอได้เดินทางไปเยอรมนีพร้อมกับ ชอย เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา และเวลานี้ก็ยังคงพำนักอยู่ที่นั่น
“เราเพิ่งได้หมายจับ ชุง ในหลายข้อหา รวมถึงข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และหลังจากนี้ก็เตรียมจะที่ขอความร่วมมือไปยังอัยการเยอรมนี” ลี คยู-ชุล โฆษกสำนักงานอัยการพิเศษ แถลงต่อสื่อมวลชน
ลี ระบุด้วยว่า ทางการอยู่ระหว่างเพิกถอนหนังสือเดินทางเกาหลีใต้ของ ชุง และได้ขอให้อัยการเยอรมนีช่วยส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ และทรัพย์สินของเธอที่นั่น
ชุง นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติ และเคยลงแข่งขันในกีฬาเอเชียนเกมส์ปี 2014 จนได้เหรียญทองประเภททีม ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเมื่อต้นปีนี้ หลังมีข่าวออกมาว่าเธอได้รับสิทธิพิเศษจากมหาวิทยาลัยสตรี อีฮวา (Ewha Womans University) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงในเกาหลีใต้
ทางมหาวิทยาลัยได้ยกเลิกการตอบรับ ชุง เข้าศึกษาต่อ นอกจากนี้เธอยังถูกเพิกถอนใบรับรองจบการศึกษาชั้นมัธยม หลังพบว่ามีการปลอมแปลงผลการเรียน และเวลาเข้าเรียนของเธอ
ในวันนี้ (21) พนักงานสอบสวนยังได้เข้าตรวจค้นสำนักงานบริการบำเหน็จบำนาญแห่งชาติเกาหลีใต้ (NPS) ซึ่งถือเป็นกองทุนบำนาญที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เพื่อค้นหาหลักฐานที่อาจเชื่อมโยงถึงการกระทำทุจริตของ ชอย และ พัค
อัยการพิเศษกำลังตรวจสอบเรื่องที่ เอ็นพีเอส โหวตสนับสนุนการควบรวมกิจการของบริษัทในเครือซัมซุง 2 แห่ง ซึ่งนักวิจารณ์ชี้ว่าทำให้ตระกูล ลี ผู้ก่อตั้งซัมซุงสามารถควบคุมกิจการได้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ต้องเป็นฝ่ายสูญเสีย
เอ็นพีเอส เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ 2 บริษัทดังกล่าว
เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการคนหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า พนักงานสอบสวนต้องการทราบว่าเงินอุดหนุนที่ ซัมซุง มอบให้แก่ธุรกิจและมูลนิธิไม่แสวงผลกำไร 2 แห่งของ ชอย ซุน-ซิล มีส่วนเชื่อมโยงกับการที่เอ็นพีเอสโหวตไฟเขียวให้ ซัมซุง ควบกิจการหรือไม่
โฆษกกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมซึ่งกำกับดูแล เอ็นพีเอส ยืนยันว่า สำนักงานแห่งหนึ่งในสังกัดกระทรวงก็ถูกบุกค้นในวันนี้ (21) เช่นกัน
การสนับสนุนของ เอ็นพีเอส ถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ถือหุ้นยอมอนุมัติแผนควบรวมกิจการ ซัมซุง ซีแอนด์ที คอร์ป กับ เชอิล อินดัสตรีส์ ซึ่งมีมูลค่าถึง 8,000 ล้านดอลลาร์
ล่าสุด ส.ส. เกาหลีใต้มากกว่า 30 คนที่สนับสนุนกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีได้ออกมาประกาศวันนี้ (21) ว่าพวกเขาจะลาออกจากพรรครัฐบาลแซนูรี ซึ่งจะยิ่งบั่นทอนสถานะของพรรคให้อ่อนแอลงไปอีก
เวลานี้พรรคแซนูรีมี ส.ส. อยู่เพียง 128 คน จากทั้งหมด 300 ที่นั่งในรัฐสภา