เอเอฟพี - สามพรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ระบุว่า พวกเขาจะเสนอญัตติถอดถอนประธานาธิบดีพัค กึนฮเย ในวันนี้ (2 ธ.ค.) และผลักดันให้รัฐสภาลงมติในสัปดาห์หน้า
พัคซึ่งถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาฉ้อโกง กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เธอเต็มใจที่จะลาออกท่ามกลางการประท้วงใหญ่รายสัปดาห์ที่มีผู้คนหลายล้านคนออกมาเข้าร่วมบนท้องถนนในกรุงโซลและเมืองอื่นๆ
ฝ่ายค้านระบุว่า ข้อเสนอของพัคซึ่งปล่อยให้วิธีการและช่วงเวลาในการลาออกของเธอขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐสภาเป็นความพยายามที่จะซื้อเวลาและเลี่ยงการถอดถอน
กลุ่มพรรคฝ่ายค้านครองที่นั่งส่วนใหญ่ในสภานิติบัญญัติแต่จำเป็นต้องได้ร้บเสียงสนับสนุนจากสมาชิกเกือบ 30 คนในพรรคซีนูรีของพัคเพื่อให้ได้เสียงส่วนใหญ่ 2 ใน 3 ที่จำเป็นต่อการถอดถอนประธานาธิบดี
“เราเห็นพ้องกันที่จะชักชวนสมาชิกสภานิติบัญญัติ (ของซีนูรี) ที่ต่อต้านพรรคหามาสนับสนุนเรา” พัค เจียวอน ผู้นำ ส.ส.ในรัฐสภาของพรรคแห่งประชาชนในกลุ่มฝ่ายค้าน กล่าว
หากญัตติผ่านมันจะถูกส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อรับความเห็นชอบ กระบวนการที่อาจใช้เวลาสูงสุดถึง 6 เดือน
พรรคซีนูรีเรียกร้องให้พัคลงจากตำแหน่งเองในเดือนเมษายนปีหน้า ทำให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะถูกจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน เร็วกว่ากำหนด 6 เดือน
เจ้าหน้าที่พรรคให้เวลาเธอหนึ่งสัปดาห์ในการยอมรับกรอบเวลานี้หรือจะเสี่ยงถูกถอดถอน
คณะอัยการระบุว่า พวกเขามีหลักฐานว่าพัคสมรู้ร่วมคิดกับชอยขูดรีดบริษัทต่างๆ ให้บริจาคเงินหลายสิบล้านดอลลาร์แก่มูลนิธิที่เธอตั้งขึ้นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
พัคถูกระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในการสืบสวนนี้ ทำให้เธอเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่อยู่ภายใต้การสืบสวนทางอาญาขณะที่ยังอยู่ในตำแหน่ง
ในขณะที่เธอยังอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดี พัคไม่อาจถูกตั้งข้อหาด้วยความผิดทางอาญายกเว้นแต่เป็นกบฏหรือทรยศ แต้เธอจะสูญเสียสิทธิคุ้มกันดังกล่าวทันทีที่ลาออก
การประท้วงใหญ่รายสัปดาห์รุนแรงมากยิ่งขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยคณะผู้จัดอ้างว่ามีผู้ฝ่าอากาศหนาวมาเข้าร่วมถึง 1.5 ล้านคนในกรุงโซลเมื่อวันเสาร์ (26) เพื่อเรียกร้องให้พัคลาออก
กลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องการประท้วงครั้งที่ 6 ในวันเสาร์นี้ (3) ที่ใจกลางกรุงโซล ทั้งๆ ที่พัคประกาศแล้วว่าเธอเต็มใจที่จะสละอำนาจ
เมื่อวันพุธ (30) พัคได้รับรองทนายความคนหนึ่งที่รัฐสภาที่คุมโดยฝ่ายค้านเสนอให้เป็นอัยการพิเศษ อัยการพิเศษคนนี้จะสอบปากคำพัคและมีเวลา 20 วันในการติดตามผลการสืบสวนของคณะอัยการรัฐ