xs
xsm
sm
md
lg

กลาโหมมะกันถูกเปิดโปงว่าปกปิดซ่อนงบ 125,000 ล้านดอลลาร์

เผยแพร่:   โดย: มีเรียม เพมเบอร์ตัน

The Pentagon’s $125-Billion Cover-up
By Miriam Pemberton
14/12/2016

พวกบิ๊กเบิ้มในกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ว่าจ้างที่ปรึกษามาจัดทำรายงานเกี่ยวกับการลดทอนความสิ้นเปลืองทั้งหลายที่มีอยู่ในกระทรวง แต่เมื่อได้รับแจ้งผลการตรวจสอบซึ่งเสนอแนะให้ตัดลดความสูญเปล่าต่างๆ คิดรวมเป็นมูลค่าถึง 125,000 ล้านดอลลาร์ ฝ่ายทหารอเมริกันก็เลยพยายามซุกซ่อนปกปิดรายงานฉบับดังกล่าว

ถ้าเกิดคุณสอบถามใครสักคนหนึ่ง แล้วเขาให้คำตอบซึ่งคุณไม่ชอบ คุณก็เลยแกล้งทำเป็นว่าคุณไม่ได้ยินคำตอบนั้น บางทีพวกเราทุกคนคงต้องเคยทำอะไรทำนองนี้กันมาแล้วในบางช่วงบางเวลาในอดีตกาลที่ไร้ความสมบูรณ์แบบของพวกเรา

อย่างไรก็ดี สำหรับพวกเราส่วนใหญ่แล้ว การแกล้งทำเช่นนี้ย่อมไม่รวมถึงความพยายามทำไก๋เพื่อซุกซุกเงินจำนวนมหาศาลถึง 125,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.375 ล้านล้านบาท)

เพนตากอน (กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) มีปัญหานิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับภาพลักษณ์ ลอง “กูเกิล” คำว่า “Pentagon waste” (ความสิ้นเปลืองของเพนตากอน) ดูเถอะ คุณจะเจอมากกว่า 500,000 ฮิตทีเดียว ในจำนวนนั้นก็รวมทั้งเรื่องราวรายงานข่าวเกี่ยวกับที่นั่งชักโครกราคาอันละ 600 ดอลลาร์ (ราว 21,000 บาท) และเครื่องทำกาแฟราคาเครื่องละ 7,600 ดอลลาร์ (ราว 266,000 บาท) ด้วย (ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.thenation.com/article/only-the-pentagon-could-spend-640-on-a-toilet-seat/) เรื่องการเงินของหน่วยงานใหญ่ที่สุดในคณะรัฐบาลส่วนกลางของสหรัฐฯแห่งนี้มีอะไรเละเทะวุ่นวายมากมายเหลือเกิน จนกระทั่งกลายเป็นเพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้นที่ยังคงไม่สามารถผ่านการสอบบัญชีได้

ด้วยเหตุนี้เองเมื่อสักไม่กี่ปีก่อน เพนตากอนจึงควักเงินจ้างพวกที่ปรึกษาจำนวนหนึ่งให้ช่วยหาวิธีการที่จะตัดลดความสิ้นเปลืองสูญเปล่าเช่นนี้ลงไป พวกเจ้าหน้าที่เพนตากอนคิดสะระตะว่า ถ้าเกิดมีไอเดียอะไรดีๆ ปรากฏออกมาจากการศึกษาตรวจสอบคราวนี้แล้ว พวกเขาก็จะสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าพวกเขามีความเอาใจใส่กับเรื่องประสิทธิภาพมากขนาดไหน แล้วจากนั้นก็จะนำเอาเงินทองที่ประหยัดได้มาใช้จ่ายในรายการโครงการทางทหารต่างๆ ซึ่งเป็นที่มุ่งมาดปรารถนาของพวกเขา

แต่ปรากฏว่าเรื่องมันไม่ได้ออกมาอย่างที่คิดไว้เลย

ในเวลา 3 เดือน พวกนายใหญ่ของเพนตากอนก็ได้รับรายงานฉบับหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะทำงานของพวกเขา ซึ่งมีเนื้อหากำหนดกรอบคร่าวๆ ในการเสนอแนะให้ตัดลดงบประมาณลงมา 125,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบๆ 1 ใน 4 ของงบประมาณทั้งหมดของกระทรวง ส่วนใหญ่ทีเดียวเป็นรายการใช้จ่ายเกี่ยวกับกำลังพลซึ่งนำเอาไปใช้บริหารจัดการสิ่งต่างๆ อย่างเช่น การทำบัญชี, ทรัพยากรมนุษย์, และการบริหารจัดการทรัพย์สินสำหรับการปฏิบัติการอันใหญ่โตมโหฬารของกระทรวงแห่งนี้ กำลังพลส่วนนี้เพิ่มจำนวนขึ้นบานเบิกในช่วงทศวรรษที่แล้ว ถึงแม้ว่าในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง จำนวนของทหารบก, ทหารเรือ, และทหารอากาศทั้งชายหญิงต่างลดจำนวนลงไปแล้ว

อันที่จริง รายงานฉบับนี้ยังไม่ได้แตะต้องส่วนที่สิ้นเปลืองสูญเปล่าอย่างแท้จริงในงบประมาณของเพนตากอนด้วยซ้ำไป อย่างเช่นงบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งกระทรวงกำลังวางแผนใช้จ่ายเพื่อเปลี่ยนทดแทนคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดที่สหรัฐฯมีอยู่กันใหม่หมด หรืองบประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับการผลิต เอฟ-35 เครื่องบินขับไล่ซึ่งหลังจากใช้เวลาพัฒนากันมาเป็นเวลา 19 ปีแล้วก็ยังไม่สามารถแสดงความล้ำหน้าเหนือกว่าเครื่องบินรุ่นก่อนๆ ที่สหรัฐฯมีใช้อยู่แล้วในเวลานี้

ทว่ารายงานฉบับนี้ก็ยังคงทำให้พวกคณะผู้นำเพนตากอนเกิดความหงุดหงิดกังวลใจ เป็นอันมาก พวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการโอดครวญว่าขาดแคลนงบประมาณหนักหน่วงสาหัส พวกเขาเที่ยวไปพูดตามที่ต่างๆ ทั่วไปหมดเกี่ยวกับกองทัพที่กำลังอยู่ในสภาพ “น่าผิดหวัง” ทั้งๆ ที่กองทัพนี้นั่งอยู่บนกองเงินกองทองงบประมาณจำนวนมากยิ่งกว่าที่พวกเขาเคยได้รับจากคณะบริหารประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน (ซึ่งขึ้นชื่อว่าใจกว้างเป็นแม่น้ำในด้านกลาโหม) เสียอีก

โอ้ พระเจ้า, พวกเขาคิด: มันจะเป็นยังไงล่ะนี่ ถ้าพิมพ์เขียวสำหรับการตัดลดความสิ้นเปลืองสูญเปล่านี้ เกิดกลายเป็นการตัดลดงบประมาณจริงๆ ของพวกเขาขึ้นมา ?

มันจะเป็นยังไงล่ะนี่ ถ้างบประมาณจำนวน 125,000 ล้านดอลลาร์ดังกล่าว แทนที่จะถูกนำกลับไปทุ่มเทให้แก่โครงการทางทหารอื่นๆ ก็ใหมันด้รับอิสรภาพจากการผูกพันกับกระทรวงกลาโหม และนำมาใช้เพื่อสร้างถนนหนทางหรือโรงเรียนต่างๆ หรือด้านการส่งเสริมพลังงานสีเขียว หรือแม้กระทั่งนำมาใช้อุดการขาดดุลงบประมาณที่ประเทศชาติกำลังประสบอยู่?

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินไม่ได้ฟังข่าวนี้เลย และพยายามฝังรายงานฉบับนี้ให้จมธรณีไป

แต่แล้วมันกลับมาระเบิดใส่หน้าพวกเขา เมื่อหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เสนอรายงานข่าวชิ้นหนึ่งเร็วๆ นี้ ซึ่งเปิดโปงให้เห็นพฤติการณ์พยายามปิดบังซ่อนเร้นเช่นนี้ ตอนนี้เรื่องนี้จึงกำลังก่อให้เกิดความสนใจของสื่อมวลชนชนิดที่พวกเขาเคยพยายามหาทางหลบหลีกไม่ให้บังเกิดขึ้นมา

พวกสมาชิกรัฐสภาพากันให้คำมั่นสัญญาว่าจะขุดคุ้ยให้ถึงรากเหง้าของการปกปิดซุกซ่อนเงินภาษีอากรของประชาชนที่ต้องสูญเปล่าสิ้นเปลืองไปอย่างมากมายมหาศาลขนาดนี้ “ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงแล้ว มันก็คือเพนตากอนกำลังหลอกลวงทำให้รัฐสภาและสาธารณชนอเมริกันกลายเป็นคนโง่ไปเลย” วุฒิสมาชิก แคลร์ แมคแคสคิลล์ (Claire McCaskill) จากมลรัฐมิสซูรี แถลง (ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.washingtonpost.com/world/national-security/report-says-pentagon-disregarded-cost-cutting-study/2016/12/06/f789304a-bbc4-11e6-ae79-bec72d34f8c9_story.html?utm_term=.59caa7798880)

ในอีกด้านหนึ่ง งบประมาณ 125,000 ล้านดอลลาร์ก้อนนี้ กำลังทำหน้าที่เป็นเสมือนกองทุนสำหรับโครงการสร้างงานขนาดใหญ่บิ๊กของรัฐบาลกลางทีเดียว โดยที่มีผู้คนมากกว่า 1 ล้านคนกำลังทำงานในตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ซึ่งหากใช้คนเพียงแค่จำนวนเศษเสี้ยวของพวกเขาก็สามารถรับมือได้อย่างสบาย ทว่านี่ย่อมจะเข้าข่ายโครงการประเภทสร้างงานที่เปล่าประโยชน์ขึ้นมา ซึ่งพวกอนุรักษนิยมรังเกียจและพากันวิจารณ์คัดค้านกันมาตั้งหลายปีแล้ว

คำถามที่จะต้องถามกันให้กระจ่างชัดเจนก็คือ แล้วทำไมจึงไม่ใช้งบประมาณซึ่งจะประหยัดได้ตามที่วาดภาพคร่าวๆ ให้เห็นในรายงานฉบับนี้ (แถมยังน่าจะประหยัดได้อีกเป็นแสนๆ ล้านทีเดียว ด้วยการปฏิเสธไม่เอาประดาอาวุธล้างผลาญงบประมาณทั้งหลายซึ่งสหรัฐฯไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้) และนำมาใช้จ่ายเพื่อให้ประชาชนได้ทำในสิ่งที่ประเทศชาติของเราต้องการจริงๆ ? อย่างเช่นการให้การศึกษาแก่เด็กๆ ลูกหลานของเรา, การเตรียมการเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาด, และการสร้างระบบขนส่งมวลชนซึ่งเราจำเป็นต้องมีเพื่อกระตุ้นผลักดันเศรษฐกิจให้เฟื่องฟู, ตลอดจนการหาทางหลีกหนีผลอันเลวร้ายที่สุดซึ่งจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

เวลานี้ประเทศชาติของเราไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะปล่อยให้สิ่งต่างๆ ดำเนินไปอย่างเคยๆ อีกต่อไปแล้ว ขอให้ช่วยกันทำให้มั่นใจได้ว่าหลักการเช่นนี้จะถูกนำมาใช้กับเพนตากอนด้วย

(ข้อเขียนชิ้นนี้มาจาก อาเธอร์เวิร์ดส์ (OtherWords) สิ่งพิมพ์ที่มุ่งเผยแพร่บทวิจารณ์และการ์ตูนแนวความคิดแบบก้าวหน้า ในเครือของสถาบันเพื่อนโยบายศึกษา (Institute for Policy Studies) กลุ่มคลังสมองที่ตั้งสำนักงานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งมีแนวคิดแบบก้าวหน้า)

มีเรียม เพมเบอร์ตัน เป็นผู้อำนวยการโครงการการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจอย่างสันติ (Peace Economy Transitions project) ของ สถาบันเพื่อนโยบายศึกษา (Institute for Policy Studies)


กำลังโหลดความคิดเห็น