เดลิสตาร์ - การเข้าสู่ทำเนียบขาวของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจต้องพบกับอุปสรรค หลังปรากฏความพยายามขัดขวางว่าที่ประธานาธิบดีรายนี้จากการเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ด้วยเบื้องต้นพบคณะผู้เลือกตั้งอย่างน้อย 6 คนส่อขัดขืนเจตจำนงของผู้มีสิทธิออกเสียง หันไปสนับสนุนฮิลลารี คลินตัน
ในขณะที่ทุกคนทราบดีว่าทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนจะมีคนจำนวนมากที่ยังไม่ทราบว่าขั้นตอนอย่างเป็นทางการอาจขัดขวางเขาจากเส้นทางสู่ทำเนียบขาว
จากระบบเลือกตั้งสหรัฐฯ แต่ละรัฐจะมีคณะผู้แทนหรือที่เรียกว่า “คณะผู้เลือกตั้ง” หรือ “electors” เป็นผู้เลือกประธานาธิบดี และคณะผู้เลือกตั้งนี้จะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการลงคะแนนที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม ไม่ใช่ประชาชนแต่อย่างใด
ทรัมป์ได้ชัยชนะในศึกเลือกตั้ง หลังได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งตามรัฐต่างๆ เพียงพอที่จะเข้ามาเลือกเขาเป็นผู้นำคนถัดไป
ปกติแล้วคณะผู้เลือกตั้งจะโหวตตามผลคะแนนที่ออกมาในแต่ละรัฐระหว่างการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม เวลานี้มีคณะผู้เลือกตั้งอย่างน้อย 6 คนที่ประกาศละเลยเสียงของประชาชนผู้ลงคะแนน และจะหันไปเลือกคลินตันแทน
มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากคณะผู้เลือกตั้ง 270 เสียงเพื่อข้ามผ่านอุปสรรคดังกล่าวในเดือนหน้า ขณะที่ประชาชนมอบบัญชาคณะผู้เลือกตั้งแก่เขา 290 คน ส่วนคลินตันได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งเพียง 232 คน
แม้คณะผู้เลือกตั้งขบถแค่ 6 คนจะไม่กัดเซาะเสียงข้างมากของทรัมป์ ทว่าพวกเขากำลังพยายามโน้มน้าวคนอื่นๆ ให้เปลี่ยนข้างตาม และต้องการอีกแค่ 15 เสียงเท่านั้นก็จะทำให้ผลการเลือกตั้งเข้าสู่ความสงสัย
หากทรัมป์เหลือคณะผู้เลือกตั้งต่ำกว่า 270 คน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะเป็นผู้เลือกประธานาธิบดีคนใหม่
ในขณะที่พรรครีพับลิกันของทรัมป์ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นมันยังคงเป็นเรื่องดีต่อเขา ทว่าอีกด้านหนึ่งอดีตดาราเรียลิตีโชว์รายนี้ก็เคยสร้างความขุ่นเคืองแก่คนในพรรคจำนวนมากระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง
ความเคลื่อนไหวนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งสหรัฐฯ หนสุดท้ายที่คณะผู้เลือกตั้งเกิดแปรพักตร์ ต้องย้อนกลับไปในปี 1808 โดยคราวนั้นมีอยู่ด้วยกัน 6 คน