เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันในวันอังคาร (22 พ.ย.) ขยับในกรอบแคบๆ หลังมีข่าวว่าโอเปกจะรอจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนแล้วจึงค่อยถกเถียงกันเกี่ยวกับข้อเสนอลดกำลังผลิต ส่วนวอลล์สตรีททุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากความคาดหวังต่อนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ขณะที่ทองคำปิดบวก หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 21 เซ็นต์ ปิดที่ 48.03 ดอลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 22 เซ็นต์ ปิดที่ 49.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันเวสต์เทกซัสขยับขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขาย หลังเหล่าคณะผู้แทนโอเปกประสานเสียงมองในแง่บวกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของข้อตกลงตรึงกำลังผลิต ณ ที่ประชุมในกรุงเวียนนา ที่เหล่าผู้แทนจะหารือกันในสัปดาห์นี้ เพื่อคลี่คลายความเห็นต่าง ก่อนหน้าการประชึมอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน
รอยเตอร์รายงานว่า มีข้อเสนอลดกำลังผลิตราว 4 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์สำหรับทุกชาติสมาชิก ยกเว้นลิเบียและไนจีเรีย อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของอิหร่าน อิรัก และอินโดนีเซีย แสดงความสงสัยต่อระดับกำลังผลิตของพวกเขาในข้อตกลงดังกล่าว
ดาวโจนส์ ปิดเหนือ 19,000 จุดเป็นครั้งแรกในวันอังคาร (22 พ.ย.) ขณะที่ทั้ง 3 ดัชนีหลักทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่อง ตามความคาดหมายต่อนโยบายสนับสนุนการเติบโตจากวอชิงตัน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 67.18 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,023.87 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.76 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,202.94 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 17.49 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,386.35 จุด
วอลล์สตรีทเคลื่อนไหวในทางบวกนับตั้งแต่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกัน สร้างความประหลาดใจเอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากเดโมแครต ขณะที่พรรครีพับลิกันยังครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภาด้วย
ตลาดคาดหมายว่าวอชิงตันจะเดินหน้านโยบายมุ่งเน้นการเติบโต ในนั้นรวมถึงการลดภาษี ยกเครื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (22 พ.ย.) ปิดบวก 2 วันติด ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดรอบ 9 เดือน ยังถูกกดดันจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,211.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์