มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันในวันอังคาร (15 พ.ย.) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ได้แรงหนุนจากความพยายามรอบใหม่ของสมาชิกโอเปกเพื่อบรรลุข้อตกลงจำกัดการผลิต ปัจจัยทางพลังงานดันวอลล์สตรีทปิดบวก ส่วนทองคำฟื้นตัวเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 2.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 2.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ผู้ค้าน้ำมันกำลังมองหาความชัดเจน ก่อนหน้าการประชุมของโอเปกในวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งเหล่าสมาชิกมีกำหนดหารือกันในรายละเอียดข้อตกลงจะลดกำลังผลิตเหลือราว 32.5 ถึง 33 ล้านบาร์เรล ในความพยายามพลิกฟื้นราคาน้ำมัน จากระดับกำลังผลิต 33.83 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคม
ความเคลื่อนไหวในวันอังคาร (15 พ.ย.) มีขึ้นหลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าสมาชิกโอเปกกำลังพยายามผลักดันในนาทีสุดท้าย ให้ก้าวผ่านความแตกแยกภายในเหล่าชาติผู้ผลิตรายใหญ่ของกลุ่ม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (15 พ.ย.) ปิดบวกถ้วนหน้าทั้ง 3 ดัชนีหลัก หลังกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมัน ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวจากร่วงลงหนัก ตั้งแต่เลือกตั้งอเมริกา
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 54.37 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,923.06 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 16.19 จุด (0.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,180.39 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 57.22 จุด (1.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,275.62 จุด
กลุ่มเทคโนโลยีของเอสแอนด์พีปิดบวก 1.5 เปอร์เซ็นต์ หลังร่วงลงราว 3 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะอย่างน่าตกตะลึงในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม ภาคการเงินของเอสแอนด์พีปิดลบ 0.4 เปอร์เซ็นต์ หลังจากทะยานถึง 13.9 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 6 วันหลังสุด
ภาคเหล่านี้มีปฏิกิริยาอย่างฉับพลันต่อผลการเลือกตั้ง ด้วยนักลงทุนโยกเงินออกจากภาคเทคโนโลยี ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากนโยบายคนเข้าเมืองและการค้าระหว่างประเทศของทรัมป์ ไปยังภาคการเงิน ที่จะได้ประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ยและความคาดหมายคลายกฎระเบียบของว่าที่ประธานาธิบดี
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (15 พ.ย.) ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน จับตาการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,224.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์