เอเอฟพี - แผ่นดินไหวขนาด 6.9 ตามมาตราแมกนิจูดซึ่งเกิดขึ้นนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (22 พ.ย.) ทำให้เกิดคลื่นสึนามิสูงราว 1 เมตร ซัดชายฝั่งบริเวณโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ แต่ล่าสุดยังไม่มีรายงานความเสียหาย
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง “อพยพโดยด่วน” ไปยังพื้นที่สูง และเตือนให้จดจำบทเรียนจาก “แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น”
แผ่นดินไหวใต้ทะเลเมื่อเดือน มี.ค.ปี 2011 ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ซัดชายฝั่งตะวันออก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายไม่ต่ำกว่า 18,500 คน และทำให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3 หน่วยที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะไดอิจิเกิดการหลอมละลาย กลายเป็นวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งใหญ่
เจ้าหน้าที่จากบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ โค (เท็ปโก) ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงไฟฟ้าได้ออกมาแถลงว่า มีคลื่นสึนามิสูง 1 เมตรซัดเข้าสู่ชายฝั่งบริเวณโรงไฟฟ้าจริง แต่โฆษกเท็ปโกยืนยันกับเอเอฟพีว่าไม่มีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ เท็ปโก รายงานว่า ระบบน้ำหล่อเย็นภายในเตาปฏิกรณ์หน่วยหนึ่งของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอินิ (Fukushima Daini) ได้หยุดทำงานชั่วคราว ซึ่งเป็นการตอบสนองอัตโนมัติ แต่กลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติแล้ว
เอ็นเอชเครายงานว่า คลื่นสึนามิยังเดินทางไปถึงชายฝั่งจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยวัดความสูงได้มากที่สุด 1.4 เมตร
สถานีโทรทัศน์แห่งนี้ได้แพร่ภาพเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมกับขึ้นข้อความสีขาวบนพื้นแดงว่า “สึนามิ! หนีด่วน” ไว้กลางหน้าจอทีวี
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่าแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นทะเลเพียง 11.3 กิโลเมตร นอกชายฝั่งจังหวัดฟูกูชิมะ
เบื้องต้นสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้ 7.3 แต่ต่อมาได้ปรับตัวเลขเป็น 7.4
แผ่นดินไหวระลอกนี้ยังทำให้อาคารสูงในกรุงโตเกียวเกิดการสั่นไหว แต่ล่าสุดยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ
นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนอาร์เจนตินาได้สั่งให้รัฐบาลกลางประสานกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และขอให้คณะรัฐมนตรี “ประเมินความเสียหาย และตอบสนองภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างดีที่สุด”
โยชิฮิเดะ สุกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แถลงที่กรุงโตเกียววันนี้ (22) ว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าแห่งใดๆ ในภูมิภาค
