เอเอฟพี - นักเคลื่อนไหวในฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องศาลวันนี้ (21 พ.ย.) ให้มีคำสั่งขุดศพอดีตผู้นำเผด็จการ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส หลังจากญาติได้นำไปประกอบพิธีฝังในสุสานวีรชนของชาติเมื่อ 3 วันก่อน จนจุดกระแสชุมนุมต่อต้านอย่างหนัก
หลังจากอำลาโลกไปนานเกือบ 3 ทศวรรษ ในที่สุดศพดองของ มาร์กอส ก็ถูกนำไปฝังอย่างเงียบๆ ที่สุสานวีรชนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18) สร้างความโกรธแค้นต่อบรรดานักวิจารณ์ที่มองว่า มาร์กอส ซึ่งเป็นผู้นำขี้ฉ้อและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางไม่คู่ควรได้รับเกียรติเช่นนี้
ครอบครัวชาวฟิลิปปินส์ที่ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดในยุคมาร์กอสได้ขอให้ศาลสูงสุดมีคำสั่งขุดศพอดีตผู้นำรายนี้ขึ้นมาอีกครั้ง โดยร้องเรียนว่าพวกตนไม่ได้รับโอกาสยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล
“คนที่ปล้นทรัพย์สินของชาติ กดขี่ประชาชน และละเมิดสิทธิมนุษยชน สมควรถูกนำไปฝังร่วมกับคนดีๆ อย่างนั้นหรือ” ส.ส.เอ็ดเซล ลักมาน ผู้ซึ่งพี่ชายถูก “อุ้มหาย” ในยุคของ มาร์กอส กล่าว
เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ศาลสูงสุดฟิลิปปินส์ได้พิพากษารับรองคำสั่งของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งอนุญาตให้ร่างของ มาร์กอส ถูกนำไปฝังรวมไว้กับบรรดาวีรชนของชาติ และทันทีที่ได้รับไฟเขียวจากศาลสูงสุด ครอบครัวมาร์กอสและรัฐบาลก็รีบดำเนินการส่งศพดองของ มาร์กอส ขึ้นเครื่องบินมายังสุสานในกรุงมะนิลาเมื่อวันศุกร์ (18) และทำพิธีฝังโดยไม่ประกาศให้สาธารณชนทราบล่วงหน้า
ลักมาน ส.ส.ฝ่ายค้านได้ยื่นคำร้องขอขุดศพของมาร์กอสขึ้นมาใหม่ในวันนี้ (21) โดยอ้างว่าคำตัดสินของศาลยังไม่ถือเป็นที่สุด เนื่องจากฝ่ายค้านไม่ได้รับโอกาสให้อุทธรณ์ภายใน 15 วันตามที่กฎหมายกำหนด
ด้านองค์กรตัวแทนเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดโดยกฎอัยการศึกของรัฐบาลมาร์กอสก็ขอให้ศาลออกหมายเรียกครอบครัวอดีตผู้นำเผด็จการและกองทัพมาไต่สวนในข้อหา “หมิ่นศาล” จากการที่พวกเขารีบนำศพ มาร์กอส ไปฝัง ทั้งที่คดียังไม่ยุติ
กลุ่มที่คัดค้านการฝังศพมาร์กอส ในสุสานวีรชนได้นัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันศุกร์นี้ (25)
“การปฏิวัติพลังประชาชน" ซึ่งโค่นอำนาจของมาร์กอสลงได้ในปี 1986 นับเป็นการเคลื่อนไหวอย่างสันติที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยทั้งในเอเชียและทั่วโลก
มาร์กอส ต้องหอบลูกเมียหนีไปลี้ภัยในรัฐฮาวาย และเสียชีวิตในอีก 3 ปีต่อมา
ร่างไร้วิญญาณของมาร์กอสถูกดองให้คงสภาพ และจัดแสดงไว้ที่บ้านเกิดของเขาเพื่อให้ประชาชนได้เข้าคารวะ เนื่องจากรัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมาล้วนปฏิเสธที่จะนำร่างของ มาร์กอส ไปไว้ในสุสานวีรชน
นักประวัติศาสตร์และพนักงานสอบสวนประเมินว่า ครอบครัวมาร์กอสและพรรคพวกได้ยักยอกทรัพย์สินของรัฐไปกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ และทำให้รัฐบาลฟิลิปปินส์มีหนี้สินอย่างมากมาย
รัฐบาลฟิลิปปินส์ชุดก่อนๆ ระบุว่า มาร์กอสได้กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางเพื่อรักษาฐานอำนาจและความร่ำรวยของตนไว้ โดยมีประชาชนหลายพันคนที่ถูกสังหารและทรมานภายใต้ระบอบเผด็จการของเขา
เมื่อปี 2004 องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ได้ประกาศให้ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ครองอันดับ 2 “ผู้นำขี้ฉ้อตลอดกาลของโลก” รองจากอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โตของอินโดนีเซีย
ตระกูลมาร์กอสเริ่มฟื้นฟูอิทธิพลทางการเมืองขึ้นมาได้ใหม่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยทั้ง อิเมลดา ภรรยาหม้ายของมาร์กอส และลูกๆ ของเธอ ต่างก็มีตำแหน่ง ส.ส.อยู่ในมือ
ครอบครัวมาร์กอสมีสายสัมพันธ์อันดีกับ โรดริโก ดูเตอร์เต อดีตนายกเทศมนตรีขาโหดเมืองดาเวา ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ในปีนี้
ดูเตอร์เต อ้างกฎหมายซึ่งอนุญาตให้อดีตประธานาธิบดีและทหารที่เสียชีวิตสามารถได้รับการฝังศพภายในสุสานวีรชนได้
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ อิเมลดา มาร์กอส ได้แถลงต่อผู้สนับสนุนด้วยน้ำเสียงตื้นตันว่า สามีของเธอได้ “นอนหลับอย่างเป็นสุข” เสียที
“ดิฉันรู้ดีว่ามาร์กอสยืนหยัดเพื่อความจริง และถ้าพวกคุณยืนอยู่ข้างความจริง พระเจ้าก็จะอยู่กับคุณเสมอ” เธอกล่าว