เอเอฟพี - นักเคลื่อนไหวและหน่วยงานด้านประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ออกมาคัดค้านแผนของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งเตรียมจัดพิธีฝังศพให้แก่เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ในสุสานวีรชนของชาติ โดยระบุว่าอดีตผู้นำเผด็จการรายนี้ “ไม่คู่ควร” และพูดเท็จเกี่ยวกับประวัติการเป็นทหารของตนเอง
ดูเตอร์เต เอ่ยย้ำเมื่อวันอาทิตย์ (7 ส.ค.) ว่าจะนำร่างของมาร์กอสไปประกอบพิธีฝังอย่างสมเกียรติที่สุสานวีรชน (Heroes’ Cemetery) ตามที่ได้ให้สัญญาไว้ในช่วงหาเสียง เรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเพราะเป็นที่รู้กันดีว่ายุคสมัยของมาร์กอสนั้นเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชัน และการละเมิดสิทธิมนุษยชน
คณะกรรมาธิการประวัติศาสตร์แห่งฟิลิปปินส์ได้เผยแพร่ผลการศึกษาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อคัดง้างกับข้ออ้างของดูเตอร์เต ที่ว่า มาร์กอส มีคุณสมบัติพอที่จะได้รับการฝังศพเยี่ยงวีรบุรุษของชาติ เนื่องจากเคยออกรบในสงครามโลกครั้งที่ 2
“มาร์กอสโกหกเรื่องที่ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติจากสหรัฐฯ... ประวัติการเป็นทหารของเขาถูกบิดเบือนด้วยเรื่องที่แต่งขึ้น และข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกันเอง” คณะกรรมาธิการระบุ
“ประวัติที่คลุมเครือเช่นนี้ไม่คู่ควรที่จะนำมาอ้างเพื่อการยอมรับทางประวัติศาสตร์ อย่าว่าแต่นำศพไปฝังในสุสานวีรชนเลย”
เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ปกครองฟิลิปปินส์ด้วยระบอบเผด็จการอยู่นานถึง 2 ทศวรรษ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติประชาชนโค่นล้มอำนาจของเขาลงได้ในปี 1986 ซึ่งทำให้ มาร์กอส ต้องหอบลูกเมียไปลี้ภัยที่รัฐฮาวาย
ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนก่อนๆ ต่างปฏิเสธคำขอของลูกหลาน มาร์กอส ที่เรียกร้องให้รัฐบาลนำศพของอดีตผู้นำรายนี้ไปฝังที่สุสานวีรชน ซึ่งขณะนี้ร่างของมาร์กอสที่ได้รับการดองและอาบน้ำยายังคงถูกจัดแสดงอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในจังหวัดอีโลกอสนอร์เต
มาร์กอส ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในปี 1965 และประกาศใช้กฎอัยการศึกในปี 1972 ซึ่งทำให้เขามีอำนาจปกครองเยี่ยงผู้นำเผด็จการ ครอบครัวมาร์กอสและบรรดาคนสนิทกอบโกยทรัพย์สินมหาศาลจากการทุจริตคอร์รัปชัน และใช้ทหารเป็นเครื่องมือกวาดล้างผู้ที่ต่อต้าน
เมื่อปี 2004 องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ได้ประกาศให้ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ครองอันดับ 2 “ผู้นำขี้ฉ้อตลอดกาลของโลก" รองจากอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โตของอินโดนีเซีย
แม้จะประกาศจุดยืนต่อต้านอาชญากรรมและการทุจริต แต่ ดูเตอร์เต กลับยกย่อง มาร์กอส ว่าเป็น “ประธานาธิบดีที่ดีที่สุด” ที่ฟิลิปปินส์เคยมีมา และยังสนิทสนมเป็นพิเศษกลับครอบครัวมาร์กอสซึ่งหนุนหลังอดีตนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาผู้นี้เป็นประธานาธิบดี