เอเอฟพี - ชาวเกาหลีใต้หลายหมื่นคนออกมารวมตัวประท้วงในกรุงโซล วันนี้ (19 พ.ย.) ซึ่งถือเป็นการนัดชุมนุมใหญ่ประจำสัปดาห์ครั้งที่ 4 เพื่อกดดันให้ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย ยอมลาออก เพื่อรับผิดชอบข่าวคอร์รัปชันที่พัวพันถึงเพื่อนหญิงคนสนิทของเธอ
กระแสประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ชาวเกาหลีใต้ได้ออกมาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อช่วงทศวรรษ 1980 และส่งผลให้รัฐบาล พัค กึน-ฮเย หมดความชอบธรรมลงทุกที ทว่า จนบัดนี้เธอก็ยังปฏิเสธที่จะสละเก้าอี้
การนัดชุมนุมใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ากันว่ามีประชาชนเข้าร่วมมากถึง 1 ล้านคน
สำหรับวันนี้ (19) ผู้จัดการชุมนุมคาดว่าจะมีคนออกมาแสดงพลังขับไล่รัฐบาลไม่ต่ำกว่า 500,000 คน ขณะที่ตำรวจประเมินตัวเลขเอาไว้เพียง 1 ใน 10
การชุมนุมขับไล่รัฐบาลในเกาหลีใต้ยังคงเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย โดยมีผู้ประท้วงหลายกลุ่มที่มากันเป็นครอบครัว ขณะที่ตำรวจก็ยังตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น และนำรถบัสไปจอดขวางเส้นทางที่จะมุ่งสู่ทำเนียบประธานาธิบดี
“เราจะต่อต้านรัฐบาลอย่างสันติ” นัม จอง-ซู โฆษกสมาพันธ์สหภาพแรงงานแห่งเกาหลี ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี พร้อมทั้งคาดหมายว่าจะมีนักศึกษาออกมาร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นคน เนื่องจากการสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยได้ผ่านพ้นไปแล้วในสัปดาห์นี้
ชาวเกาหลีใต้ราว 50,000 คน ได้ออกมารวมตัวกันที่ถนนกวางฮวามุน ทางใต้ของทำเนียบประธานาธิบดี ก่อนจะถึงเวลานัดชุมนุมใหญ่หลายชั่วโมง
คิม มยุง-ฮี หญิงสาววัย 30 ปี ที่เดินทางมาพร้อมกับสามีและลูกสาว 2 คน ให้สัมภาษณ์ว่า “เรามาที่นี่ เพราะอยากให้ลูกๆ ได้เห็นสถานที่ซึ่งจะต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์”
“พัค ไม่มีความละอายใจเลยแม้แต่น้อยในความผิดที่เธอและเพื่อนได้ทำลงไป เธอสมควรลาออก” คิม กล่าว
พัค ได้ออกมาขออภัยประชาชนผ่านสื่อโทรทัศน์แล้วถึง 2 ครั้ง ทว่า กระแสต่อต้านพฤติกรรมทุจริตฉ้อฉลซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ ชอย ซุน-ซิล ยังไม่มีแนวโน้มจะซาลงง่ายๆ
อัยเการเกาหลีใต้เตรียมตั้งข้อหาฉ้อโกงและใช้อำนาจโดยมิชอบอย่างเป็นทางการกับ ชอย และผู้ต้องหาร่วมอีก 2 คน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (21)
ชอย วัย 60 ปี ถูกกล่าวหาว่า อาศัยความสนิทชิดเชื้อกับผู้นำหญิงก้าวก่ายการบริหารประเทศ ทั้งที่ไม่มีตำแหน่งใดๆ และยังข่มขู่กลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ เช่น ซัมซุง ให้บริจาคเงินจำนวนมากเข้ามูลนิธิไม่แสวงผลกำไร 2 แห่งที่เธอก่อตั้งขึ้น จากนั้นก็นำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
เรื่องที่ ชอย ใช้อิทธิพลครอบงำความคิดจิตใจของประธานาธิบดี ส่งผลให้คะแนนนิยมของ พัค ดิ่งรูดลงมาเหลือเพียง 5% ตามผลสำรวจของแกลลัปโพล เมื่อวันที่ 4 พ.ย. และถือว่าตกต่ำที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการทำโพลในปี 1988
วิกฤตการเมืองครั้งนี้ส่งผลให้การทำงานของรัฐบาลโซล แทบจะกลายเป็นอัมพาต โดย พัค ได้ตัดสินใจงดเดินทางไปร่วมประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่เปรู แต่ยืนยันว่า จะไปร่วมประชุมซัมมิต 3 ฝ่ายกับจีนและญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียวในเดือนหน้า
ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แถลงว่า มีประชาชนจำนวนหนึ่งนำตะกร้าดอกไม้มามอบให้ พัค เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน และยังมีการรวมตัวของกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลใกล้ๆ ถนนกวางฮวามุน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 5,000 คน
ตำรวจเกาหลีใต้ยืนยันว่า จะพยายามกันไม่ให้ผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย เผชิญหน้ากันได้ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง