มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี (17 พ.ย.) นักลงทุนบางส่วนยังคงสงสัยว่าสมาชิกโอเปกจะยึดมั่นโควตาของแต่ละประเทศหรือไม่หากสามารถบรรลุข้อตกลงจำกัดการผลิต ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกหลังประธานเฟดให้ภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่วนทองคำปรับลด 7 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 15 เซ็นต์ ปิดที่ 45.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 14 เซ็นต์ ปิดที่ 46.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความสงสัยว่าสมาชิกโอเปกจะปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังผลิตหรือไม่ หากสามารถเห็นพ้องต้องกัน ณ ที่ประชุมปลายเดือนนี้ และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2003 ฉุดให้ราคาน้ำมันปรับลด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (17 พ.ย.) จากสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และประธานธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) ให้ภาพนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยชัดเจนกว่าเดิม
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 35.68 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,903.82 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 10.18 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,187.12 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 39.39 จุด (0.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,333.97 จุด
ระหว่างให้ปากคำกับคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรส นายเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่าการขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ย้ำถึงความเป็นไปได้ที่หลายฝ่ายคาดหมายว่าท้ายที่สุดแล้วเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย ณ ที่ประชุมเดือนธันวาคม
แม้คาดหมายกันมานานแล้วเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม แต่นักลงทุนบางส่วนเริ่มกะเก็งกันว่าบางทีมันอาจต้องล่าช้าออกไป ตามหลังชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งก่อความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ
คำพูดของเยลเลน ที่ย้ำความเป็นไปได้ของการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ฉุดราคาทองคำปิดลบ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนในวันพฤหัสบดี (17 พ.ย.) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,216.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
