มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - น้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อวันพุธ (19 ต.ค.) หลังคลังสำรองสหรัฐฯ ลดลงผิดคาด ปัจจัยนี้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและดันวอลล์สตรีทปิดบวก ส่วนทองคำขยับขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 99 เซ็นต์ ปิดที่ 52.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 ส่วนเบรนต์ลอนดอนสูงสุดในรอบสัปดาห์ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยแพร่รายงานในวันพุธ (19 ต.ค.) ระบุสต๊อกน้ำมันดิบในประเทศลดลง 5.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ตุลาคม สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 2.5 ล้านบาร์เรล
ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน และส่งให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (19 ต.ค.) ประคองตัวปิดบวกได้เล็กน้อย ท่ามกลางแรงฉุดของอินเทล ที่ออกรายงานคาดการณ์ผลประกอบการจะออกมาน่าผิดหวัง
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 40.68 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,202.62 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 4.69 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,144.29 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 2.58 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,246.41 จุด
หุ้นภาคพลังงานปิดบวก 1.4 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นการขยับขึ้นมากสุดในรอบ 7 วัน จากราคาน้ำมันที่ดีดตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้แล้ว วอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจาก ฮัลลิเบอร์ตัน ที่พุ่งขึ้นถึง 4.2 เปอร์เซ็นต์ หลังบริษัทผู้ให้บริการด้านน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกเผยแพร่ผลประกอบการในไตรมาส 3
ขณะดียวกัน หุ้นกลุ่มการเงินได้แรงหนุนจากรายงานผลกำไรรายไตรมาสที่ดีเกินคาดหมายของมอร์แกน สแตนเลย์ ที่สะท้อนถึงผลประกอบกิจการอันแข็งแกร่งของเหล่าธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของอินเทล ได้จำกัดการพุ่งทะยานของวอลล์สตรีท ขณะที่หุ้นของผู้ผลิตชิปแห่งนี้ดิ่งลงถึง 5.9 เปอร์เซ็นต์
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (19 ต.ค.) ปิดบวกเป็นวันที่สามติดต่อกัน แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากแรงขายดอลลาร์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 7.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,269.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม