เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันเมื่อวันอังคาร (11 ต.ค.) ปิดลบเล็กน้อยตามรายงานกำลังผลิตโอเปกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งแรง จากความกังวลต่อผลประกอบการบริษัทต่างๆ ขณะที่ทองคำปรับลด หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 56 เซ็นต์ ปิดที่ 50.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 73 เซ็นต์ ปิดที่ 52.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในวันอังคาร (11 ต.ค.) ทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในปารีสเผยว่า โอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 160,000 ต่อวันในเดือนกันยายน เป็น 33.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับสูงสุดตลอดกาล
ตัวเลขดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่โอเปกเพิ่งเห็นชอบกันที่แอลจีเรียเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะลดกำลังผลิตลงสูงสุดเหลือ 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ก็บอกว่าจะหารือในรายละเอียดของข้อเสนอเบื้องต้นดังกล่าว ณ ที่ประชุมกลุ่มโอเปกคราวต่อไปในวันที่ 30 มิถุนายน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนักในวันอังคาร (11 ต.ค.) รายงานผลดำเนินงานของอัลโค ก่อความกังวลอย่างรุนแรงเกี่ยวกับฤดูกาลเผยแพร่รายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ในวอลล์สตรีท
ดาวโจนส์ลดลง 200.38 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,128.66 จุด เอสแอนด์พีลดลง 26.93 จุด (1.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,136.73 จุด แนสแดคลดลง 81.89 จุด (1.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,246.79 จุด
หุ้นของอัลโคดิ่งลงถึง 11.4 เปอร์เซ็นต์ หลังผลกำไรต่อหุ้นพลาดเป้า และให้มุมมองมัวหมองต่อแนวโน้มธุรกิจอะลูมิเนียมของพวกเขา ปัจจัยนี้ก่อความกังวลอย่างรุนแรงเกี่ยวกับฤดูกาลเผยแพร่รายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ในช่วงไตรมาส 3
ส่วนราคาทองคำลดลงในวันอังคาร (11 ต.ค.) เป็นวันที่ 7 ในรอบ 8 วัน หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 4.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,255.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล