เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันร่วงหนักต่อเนื่องในวันพุธ (14 ก.ย.) หลังรัฐวิสาหกิจพลังงานลิเบียเผยการส่งจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าภายใน 4 สัปดาห์ หลังได้รับการส่งมอบท่าเทียบเรือน้ำมันคืนจากฝ่ายกบฏ ปัจจัยนี้ฉุดวอลล์สตรีทปิดลบ ขณะที่ทองคำปรับขึ้นจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมีขึ้นหลังจากบรรษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบีย เผยว่าจะเริ่มฟื้นฟูการส่งออกจากบรรดาท่าเรือหลักต่างๆ ที่พวกทหารคู่ปรับยึดไปจากรัฐบาลเมื่อวันอาทิตย์ (11 ก.ย.) และวันจันทร์ (12 ก.ย.) คุกคามสายเลี้ยงชีพทางการเงินของประเทศ
มุสตาฟา ซานาลลา ประธานของบรรษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบีย ระบุในถ้อยแถลงว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเพิ่มกำลังผลิตจากระดับ 290,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 600,000 บาร์เรลต่อวันภายใน 4 สัปดาห์ ขณะที่ทางบรรษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบียมีกำลังผลิตสูงสุดที่ 950,000 บาร์เรลต่อวัน
ความเคลื่อนไหวนี้จะเพิ่มอุปทานน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดโลกอีกปริมาณมาก แม้ว่ากลุ่มโอเปกและรัสเซียมีกำหนดหารือกันในเดือนนี้ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะตรึงกำลังผลิต
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (14 ก.ย.) ปิดผสมผสาน นักลงทุนเพ่งเล็งไปยังแนวโน้มของการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับลดฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้ แอปเปิล พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบปีนี้
ดาวโจนส์ ลดลง 31.98 จุด (1.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,034.77 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.25 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,125.77 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 18.51 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,173.77 จุด
ความคาดเดาเกี่ยวกับกรอบเวลาของการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด ได้ก่อความผันผวนแก่ตลาดมาตั้งแต่วันศุกร์ (9 ก.ย.) ท่ามกลางความเห็นที่ขัดแย้งกันของเหล่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ
หุ้นของแอปเปิล พุ่ง 3.4 เปอร์เซ็นต์ แตะระดับสูงสุดในปี 2016 ด้วยมูลค่าการตลาดขยับเหนือ 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน เนื่องจากวอลล์สตรีทคาดหมายว่าไอโฟนใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีแห่งนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายที่กำลังตกต่ำ
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (14 ก.ย.) ปิดบวกเล็กน้อย หลังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,326.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
