น้ำมัน-ทองคำขึ้น หุ้นสหรัฐฯ ปิดลบจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีน

มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย หลังพบกำลังผลิตสหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ส่วนวอลล์สตรีทขยับลงจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีน ขณะที่ทองคำดีดขึ้น เหตุดอลลาร์อ่อนค่าลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 26 เซ็นต์ ปิดที่ 50.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 22 เซ็นต์ ปิดที่ 52.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) รายงานว่า อุปทานน้ำมันดิบภายในประเทศเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ตุลาคม

อย่างไรก็ตาม ในรายงานระบุด้วยว่า กำลังผลิตใน 48 รัฐตอนล่างลดลง 36,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือ 7.969 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2014

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขยับลงในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.) ตามหลังข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีน เช่นเดียวกับแรงฉุดจากกลุ่มธนาคาร ก่อนหน้ามีกำหนดเผยแพร่รายงานผลประกอบการ

ดาวโจนส์ลดลง 45.26 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,098.94 จุด เอสแอนด์พีลดลง 6.63 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,132.55 จุด แนสแดคลดลง 25.69 จุด (0.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,213.33 จุด

ตัวเลขส่งออกของจีนลดลง 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนกันยายน และนำเข้าลดลง 1.9 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวอย่างรุนแรงด้านการค้าของชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลก

เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก ต่างปิดลบ ก่อนหน้าเผยแพร่รายงานผลประกอบการในตอนเช้าวันศุกร์ (14 ต.ค.)

ส่วนราคาทองคำปิดบวกในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.) หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,257.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล