เอเอฟพี - ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครนร้องขอการสนับสนุนจาก โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อต่อต้าน “การรุกรานของรัสเซีย” ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เพื่อแสดงความยินดีกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้เมื่อวานนี้ (15 พ.ย.)
ชัยชนะในการเลือกตั้งอันน่าตกตะลึงของทรัมป์สร้างความระส่ำระสายอย่างมากในเคียฟ เนื่องจากเขาเคยกล่าวชื่นชมประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียและไม่สนใจกลุ่มพันธมิตรตะวันตกที่ต่อต้านมอสโค
นักธุรกิจพันล้านกล่าวเมื่อช่วงก่อนหน้าในปีนี้ว่า สหรัฐฯอาจยอมรับการควบรวมไครเมียของรัสเซียหากมันนำไปสู้ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างสองประเทศซึ่งขัดแย้งกันอย่างรุนแรงในกรณีซีเรีย
โปโรเชนโกแสดงความยินดีกับชัยชนะของทรัมป์และกล่าวว่า เขาหวังว่าจะ “ทำงานร่วมกับคณะบริหารของเขาเพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างยูเครนและสหรัฐฯให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นอีก” อ้างจากถ้อยแถลงโดยทำเนียบประธานาธิบดียูเครน
เขายัง “เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็งจากวอชิงตันในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซียและการดำเนินการปฏิรูปที่สำคัญ” ในยูเครน
ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะจัด “การประชุมสองฝ่าย” ถ้อยแถลงระบุ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ก่อให้เกิดความกลัวในอดีตสหภาพโซเวียตแห่งนี้หลังจากทรัมป์ถูก ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตกล่าวหาหลายครั้งว่าเป็น “หุ่นเชิด” ของรัสเซีย
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ โปโรเชนโกกล่าวว่า เขาไม่มีความสงสัยเลยว่าทรัมป์จะปฏิเสธการยอมรับการคีวบครวมไครเมียของรัสเซีย
เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ (14) ปูตินและทรัมป์พูดคุยกันทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเลือกตั้งสหรัฐฯ และเห็นพ้องกันถึงความจำเป็นที่จะต้องทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันและมอสโกกลับเป็นปกติ วังเครมลินระบุ
หลังจากการควบรวมแหลมไครเมียของยูเครนในเดือนมีนาคมปี 2014 ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-รัสเซียตกลงสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่สงครามเย็น วอชิงตันบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
รัสเซียก็ถูกวอชิตันกล่าวหาว่าสนับสนุนกบฏโปรรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครนด้วยเช่นกัน แต่เครมลินปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง