รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย มัลคอล์ม เทิร์นบูลแถลงวันนี้(14 พ.ย)ยืนยันว่า ผู้ลี้ภัยจำนวน 1,200 คนจากศูนย์ผู้อพยพเกาะนาอูรูและเกาะมานุสของปาปัวนิวกินี จะถูกส่งตัวไปยังสหรัฐฯหลังจากการเข้ารับตำแหน่งของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ตามข้อตกลงเดิมที่ออสเตรเลียทำไว้กับรัฐบาลโอบามา
รอยเตอร์รายงานวันนี้(14 พ.ย)ว่า ตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลออสเตรเลียและรัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ทำให้นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย มัลคอล์ม เทิร์นบูล ออกมาแถลงในวันจันทร์(14 พ.ย)ว่า ทางการออสเตรเลียจะส่งตัวผู้อพยพจำนวน 1,200 คนที่อาศัยอยู่ภายในศูนย์ผู้ลี้ภัยบนเกาะนาอูรูและเกาะมานุสของปาปัวนิวกินี เดินทางเข้าสหรัฐฯทันทีหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมไปแล้ว
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(13 พ.ย) เทิร์นบูลได้ออกมาเปิดเผยว่า สหรัฐฯได้ตกลงก่อนหน้านี้ในการรับตัวผู้ลี้ภัยเข้าออสเตรเลียที่อยู่ในศูนย์ผู้ลี้ภัยบนเกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก “ด้วยตัวเลขจำนวนมาก” เพื่อเข้ามาอาศัยในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ผู้อพยพส่วนใหญ่ที่อยู่ในศูนย์ลี้ภัยเกาะนาอูรูและเกาะมานุสนั้นส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมที่ลี้ภัยสงครามในอิรัก ซีเรีย อัฟกานิสถาน และปากีสถาน
ซึ่งข้อตกลงที่รัฐบาลออสเตรเลียของเทิร์นบูลทำไว้กับรัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีบารัค โอบามาในเดือนกันยายนที่ผ่านมา สหรัฐฯตกลงยอมรับผู้ลี้ภัยที่เดินทางมาจากกัวเตมาลา ฮอนดูรัส และเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนก่ารโควต้ารับผู้ลี้ภัย 18,750คนประจำปีของออสเตรเลีย ในการสนับสนุนแผนการรับผู้อพยพจากอเมริกากลางที่ทางวอชิงตันได้เป็นผู้ร่าง
โดยในวันนี้(14 พ.ย)เทิร์นบูลประกาศว่า ล็อตแรกของกลุ่มผู้อพยพที่จะถูกย้ายไปยังสหรัฐฯจะไม่ถูกส่งตัวเข้าอเมริกาเร็วไปกว่าวันที่ 20 ม.ค 2017 ซึ่งเป็นวันพิธีการสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ เทิร์นบูลแถลงว่า “กระบวนการต้องใช้เวลาหลายเดือน สหรัฐฯจะไม่ยอมเร่งรีบในปัจจัยด้านความมั่นคง หรือการคัดกรองโรคติดต่อ”
ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า มีโอกาสที่ทรัมป์จะใช้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯวีโต้ในข้อตกลงร่วมกับออสเตรเลีย และจะทำให้บรรดาผู้ลี้ภัย ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องถูกส่งกลับประเทศบ้านเกิด หรือ จะต้องอาศัยอยู่ภายในศูนย์พักพิงบนเกาะนาอูรีและเกาะมานุสของปาปัวนิวกินีต่อไป
และการวีโต้ของทรัมป์จะทำให้นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ต้องค้นหาประเทศที่ 3 อื่นเพื่อรับตัวผู้อพยพเหล่านี้ไปตั้งหลักแหล่งแทน อย่างไรก็ตาม เทิร์นบูลได้ระบุว่า เขาเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่ภายใต้การกุมบังเหียนของพรรครีพับลิกันจะยังคงรักษาข้อตกลงกับออสเตรเลียไว้ และย้ำว่า จะไม่เป็นการเพิ่มจำนวนโควต้าการรับตัวผู้อพยพประจำปีของอเมริกาเข้าประเทศ