เอพี/เอเจนซีส์ - ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ส.ส.อเมริกันเชื้อสายไทย จากพรรคเดโมแครต คว้าชัยได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ในการเลือกตั้งใหญ่เมื่อวันอังคาร (8) อย่างไรก็ดี นี่ถือเป็นเก้าอี้วุฒิสมาชิกเพียงตัวเดียวที่เดโมแครตชิงมาได้ และสื่อชั้นนำมากมายฟันธงว่า รีพับลิกันจะยังคงครองเสียงข้างมากทั้งสภาสูงและสภาล่าง ไม่รวมทำเนียบขาวที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าครอบครองสำเร็จชนิดเกินความคาดหมาย
ดักเวิร์ธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 สมัย จากเขตฮอฟฟ์แมน เอสเทตส์ ลงสนามในฐานะแคนดิเดตคนโปรด เนื่องจากอิลลินอยส์สนับสนุนผู้สมัครจากเดโมแครตเหนียวแน่นมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะในปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะเดียวกัน วุฒิสมาชิก มาร์ก เคิร์ก เจ้าของตำแหน่งคนเดิมจากรีพับลิกัน เสียรังวัดอย่างมากจากการเยาะเย้ยภูมิหลังของดักเวิร์ธ รวมถึงประวัติการรับใช้ชาติของครอบครัวของเธอ ระหว่างการโต้วาที
ระหว่างประกาศชัยชนะในที่ทำการพรรคที่เมืองชิคาโก เมื่อคืนวันอังคาร (8) ดักเวิร์ธ เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 12 ปีที่แล้วที่เฮลิคอปเตอร์ที่เธอเป็นนักบินที่สองถูกยิงตกในสงครามอิรัก เธอเสียขาทั้งสองข้างและรอดมาได้จากการช่วยเหลือของเพื่อนร่วมหน่วย ซึ่งหนึ่งในนั้นมาร่วมฉลองชัยชนะกับเธอในครั้งนี้ด้วย
เธอบอกว่า ทุกวันเธอพยายามใช้ชีวิตให้สมกับความเสียสละของเพื่อนทหารที่ช่วยเธอออกมาจากสนามรบ และในฐานะวุฒิสมาชิก เธอจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อเชิดชูความเสียสละและศักดิ์ศรีของชาวอิลลินอยส์ทุกคนที่เผชิญความท้าทายของตนเอง
ทั้งนี้ ดักเวิร์ธประกาศจะช่วยเหลือครอบครัวชนชั้นกลาง และชนชั้นแรงงานระหว่างการหาเสียง และมักเล่าเรื่องความยากลำบากที่ครอบครัวของเธอเคยฝ่าฟันมา เธอบอกว่า ครั้งหนึ่งครอบครัวของเธอต้องใช้คูปองอาหารหลังจากที่พ่อถูกปลดจากงาน
ดักเวิร์ธรับตำแหน่งผู้อำนวยการกรมกิจการทหารผ่านศึกของมลรัฐอิลลินอยส์ หลังแพ้การเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2006 สามปีต่อมา ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แต่งตั้งให้เธอเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านกิจการสาธารณะและการประสานงานระหว่างรัฐบาลของกระทรวงทหารผ่านศึก
วันอังคาร (8) ดักเวิร์ธยังให้สัญญาว่า จะผลักดันเพื่อให้เยาวชนสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ง่ายขึ้น สร้างงาน และรับประกันว่าทหารผ่านศึกจะได้รับการดูแลตามที่รัฐบาลให้สัญญา
ดักเวิร์ธ เกิดที่กรุงเทพฯ แม่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน ส่วนพ่อเป็นคนอเมริกัน และถือเป็นสตรีคนที่สองที่ได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ของอิลลินอยส์ หลังจาก แครอล โมสลีย์ บราวน์ ในปี 1992
อย่างไรก็ตาม ดักเวิร์ธ เป็นสมาชิกเดโมแครตคนเดียวที่สามารถชิงเก้าอี้วุฒิสมาชิกจากรีพับลิกันได้ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ โดยที่รีพับลิกันจะยังครองเสียงข้างมากทั้งในสภาสูงและสภาล่างต่อไป
ในวุฒิสภาซึ่งมีสมาชิกทั้งสิ้น 100 คนนั้น รีพับลิกันมีอยู่ 54 คน ขณะที่เดโมแครตมี 46 คน สำหรับการเลือกตั้งคราวนี้มีตำแหน่งวุฒิสมาชิกให้เลือกกันทั้งหมด 34 ที่นั่ง ปรากฏว่าในจำนวนนี้ 24 ที่นั่งทีเดียวพวกรีพับลิกันครองอยู่
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ผลโพลต่างๆ ยังทำนายว่า มีอย่างน้อย 4 ที่นั่งทีเดียว ซึ่งอยู่ในอาการ “สวิง” โดยการแข่งขันอยู่ในสภาพคู่คี่มาก ดังนั้น จึงเห็นว่ามีโอกาสอยู่ไม่น้อยที่เดโมแครตจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากในสภาสูง โดยถ้าเด็ดขาดเลยคือได้เพิ่มสุทธิมาตั้งแต่ 5 ที่นั่ง หรือได้เพิ่มสุทธิ 4 แล้วคลินตันชนะเป็นประธานาธิบดี ซึ่งจะทำให้ ทิม เคน ผู้สมัครเป็นรองประธานาธิบดีในทีมของเธอ ได้เป็นประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง และสามารถออกเสียงชี้ขาดในกรณีการโหวตในสภาสูงเกิดได้เสียงเท่ากัน
ทว่า ในที่สุดแล้วรีพับลิกันก็ดูจะอาศัยคะแนนนิยมที่มากมายผิดคาดของทรัมป์ จึงเสียที่นั่งวุฒิสมาชิกไปเฉพาะในอิลลินอยส์เท่านั้น แต่รักษาไว้ได้ในสนาม “สวิง” อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐเพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา และวิสคอนซิน
ขณะที่ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีการเลือกตั้งกันทั้งสภานั้น ผลออกมาเป็นไปตามคาดหมาย โดยตามการประกาศของเครือข่ายทีวีเอ็นบีซี รีพับลิกันยังคงชนะเดโมแครตอยู่ 239 ที่นั่งต่อ 196 ที่นั่ง นี่เท่ากับเดโมแครตได้เพิ่มขึ้นจากคราวก่อน 8 ที่นั่ง ทว่ายังไม่เพียงพอที่จะช่วงชิงสภานี้จากการควบคุมของฝ่ายรีพับลิกัน