xs
xsm
sm
md
lg

ศึกชิงทำเนียบขาวดุเด็ดถึงนาทีสุดท้าย รอยเตอร์ชี้คลินตันมีโอกาสชนะใส 90%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดุเด็ดเผ็ดมันจนถึงนาทีสุดท้ายในการหาเสียงเมื่อคืนวันจันทร์ (7 พ.ย.) โดยทรัมป์เรียกคลินตันว่า “จอมตลบตะแลง” ส่วนแคนดิเดตเดโมแครตกล่าวหาอดีตพิธีกรเรียลิตีโชว์ทำประเทศแตกแยก ขณะที่โพลจากรอยเตอร์/อิปซอส ชี้ คลินตันมีโอกาสลิ่วเข้าสู่ทำเนียบขาวถึง 90%

ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน วิ่งรอกหาเสียงในรัฐต่างๆ ที่เป็นสนามเลือกตั้งสำคัญตลอดวันจันทร์ เพื่อโน้มน้าวให้ผู้สนับสนุนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันรุ่งขึ้น (8)

คลินตันนั้นพยายามระดมเสียงเพิ่มจากคนอเมริกันเชื้อสายละติน และแอฟริกัน รวมถึงหนุ่มสาว ขณะที่ทรัมป์เล็งชิงคะแนนจากผู้สนับสนุนเดโมแครตที่ไม่ภักดีต่อคลินตัน รวมทั้งชนชั้นกลางที่เขาปลุกปั่นว่า ถูกนักการเมืองรุ่นเก่ามองข้าม

การเลือกตั้งประธานาธิบดีในสหรัฐฯนั้น ไม่ใช่ตัดสินกันว่า ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงทั่วประเทศ ลงคะแนนให้ผู้สมัครคนไหนมากกว่า แต่การโหวตของผู้ออกเสียงเป็นการเลือกคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) โดยที่แต่ละรัฐจะมีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งไม่เท่ากัน เช่น นิวยอร์ก มี 55 แต่ เวอร์มอนต์ มี 3 แทบทุกรัฐใช้วิธีที่ว่าผู้สมัครซึ่งได้คะแนนโหวตสูงที่สุด จะได้จำนวนคณะผู้เลือกตั้งไปทั้งหมด เนื่องจากทั้งประเทศจะมีจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง 538 คน ในปีนี้ ดังนั้น ผู้สมัครคนไหนได้ไป 270 เสียงก็จะเป็นผู้ชนะ

ทั้งนี้ ผลสำรวจของสเตทส์ ออฟ เดอะ เนชัน ของรอยเตอร์/อิปซอส ระบุว่า เมื่อดูจากจำนวนเสียงโหวตของประชาชนทั่วประเทศ คลินตันกำลังนำทรัมป์อยู่ราว 45% ต่อ 42% และเมื่อดูที่คะแนนคณะผู้เลือกตั้งแล้ว คลินตันมีโอกาสชนะ 90% และน่าจะกวาดคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง ได้ 303 เสียง จากที่ต้องการ 270 เสียง ส่วนทรัมป์น่าจะได้เพียง 235 เสียง

อย่างไรก็ดี ทรัมป์ยังมีโอกาสลุ้น โดยที่จะต้องชนะให้ได้ในมลรัฐเหล่านี้ คือ ฟลอริดา มิชิแกน นอร์ทแคโรโลนา และ โอไฮโอ ที่โพลเมื่อวันอาทิตย์ชี้ว่าคู่คี่มาก รวมทั้งที่เพนซิลเวเนียด้วย ซึ่งโพลบอกว่าคลินตันนำ 3% ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังต้องรักษาแอริโซนา รัฐซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาเคยเป็นของรีพับลิกัน ทว่าปีนี้คะแนนยังสูสี รวมทั้งต้องคาดหวังว่า ผู้สมัครอิสระอย่าง อีแวน แมคมุลลิน จะไม่ชนะในยูทาห์ อีกมลรัฐหนึ่งซึ่งเคยเป็นฐานของรีพับลิกันมายาวนาน

การที่ทรัมป์จะมีชัยได้ในสนามเหล่านี้ พูดโดยรวมแล้ว จำเป็นที่ชาวผิวขาวที่สนับสนุนรีพับลิกัน ต้องออกไปใช้สิทธิให้มากกว่าเมื่อปี 2012 ขณะที่คนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันก็ต้องออกไปใช้สิทธิน้อยลง และผู้มีสิทธิออกเสียงที่พูดภาษาสเปน (ฮิสปานิก) เข้าคูหาน้อยกว่าที่คาดหมายกันไว้

นอร์ทแคโรไลนา หนึ่งในมลรัฐที่สามารถรายงานผลเลือกตั้งได้อย่างรวดเร็วในคืนวันอังคาร (ตรงกับช่วงเช้าวันพุธที่ 9 ตามเวลาเมืองไทย) อาจเป็นตัวบ่งชี้ผลการแข่งขัน เนื่องจากหากคลินตันชนะในรัฐนี้อาจหมายความว่า คนแอฟริกัน-อเมริกัน ออกไปใช้สิทธิเนืองแน่นพอๆ กับปี 2012 โดยที่ในปีนั้น โอบามาแพ้ มิตต์ รอมนีย์ ตัวแทนจากรีพับลิกัน ในนอร์ทแคโรไลนา อยู่ 2% ด้วยซ้ำ แต่ในระดับทั่วประเทศแล้ว เขาชนะ 4%

ทั้งนี้ สเตท ออฟ เดอะ เนชัน มาจากการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง 15,000 คน ทุกสัปดาห์ในทั้ง 50 รัฐ และรวมถึงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย

วันจันทร์ แคนดิเดตทั้งคู่ลุยหาเสียงเต็มที่ในรัฐสำคัญเหล่านี้ โดยคลินตันปราศรัยครั้งใหญ่ที่สุดตลอดการหาเสียงที่ผ่านมาที่ฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย โดยแผนกดับเพลิงของเมือง ระบุว่า มีผู้เข้าฟังการปราศรัยถึง 33,000 คน นอกจากคลินตันแล้ว ยังมีประธานาธิบดี บารัค โอบามา และภรรยาตลอดจนถึงร็อกสตาร์รุ่นใหญ่อย่าง บรูซ สปริงทีน และ จอน บอง โจวี ขึ้นเวทีด้วย

คลินตันเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปใช้สิทธิและเชื่อมั่นในอเมริกาที่โอบอ้อมอารีและเป็นของทุกคน

ส่วนโอบามาที่ก่อนหน้านั้นร่วมหาเสียงกับคลินตันที่เมืองแอนน์ อาร์เบอร์ รัฐมิชิแกน ย้ำจุดอ่อนของทรัมป์ ว่า ขาดวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำประเทศ และกระตุ้นให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกคลินตัน โดยรับประกันว่า เธอจะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ไม่ใช่ดีแต่ทวีต

ก่อนหน้านี้ ทีมหาเสียงของคลินตันได้กำลังใจสำคัญขณะที่เหลืออีกเพียงไม่กี่สิบชั่วโมงจะถึงวันเลือกตั้ง เมื่อ เจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ประกาศชนิดเกินความคาดหมายเมื่อวันอาทิตย์ (6) ว่า เอฟบีไอยืนตามการตัดสินใจในเดือนกรกฎาคมไม่สั่งฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของคลินตันขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ

ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์ มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า การประกาศของโคมีย์เมื่อวันอาทิตย์ช่วยเพิ่มโอกาสที่คลินตันจะได้ชัยชนะ

โพลของรอยเตอร์/อิปซอส ยังระบุว่า คลินตันมีคะแนนนำทรัมป์ทั่วประเทศเพียง 5% คือ 44% ต่อ 39%

อย่างไรก็ตาม คะแนนในรัฐที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดอย่างฟลอริดาและนอร์ทแคโรไลนาพลิกจากคลินตันนำเป็นสูสี

ผลสำรวจทั้งของฟ็อกซ์ นิวส์ และ ซีบีเอส นิวส์ ที่ออกมาเมื่อวันจันทร์ พบว่า คลินตันที่กำลังต่อสู้สุดแรงเพื่อให้ได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของอเมริกา มีคะแนนนำทรัมป์ 4%

กระนั้น ชัยชนะในศึกชิงทำเนียบขาวไม่ได้ตัดสินกันด้วยคะแนนจากประชาชนเท่านั้น แต่ผู้ชนะจะต้องได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งตามเกณฑ์คือ 270 เสียง หมายความว่า รัฐที่มีแนวโน้มสูสี อาจเป็นสนามที่ชี้ขาดการแข่งขัน

ทรัมป์ เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เคยมีตำแหน่งทางการเมืองมาก่อน เริ่มหาเสียงในวันสุดท้ายที่เมืองซาราโซตา รัฐฟลอริดา ที่มีชาวอเมริกันที่พูดภาษาสเปนอยู่จำนวนมาก

แคนดิเดตจากรีพับลิกันไม่สนใจโพลสำนักต่างๆ ที่บ่งชี้ว่า คลินตันนำอยู่บางเฉียบ แต่ประกาศว่า ตัวเองจะเป็นผู้ชนะ ซ้ำเรียกคู่แข่งจากเดโมแครตว่า “จอมตลบตะแลง” และว่า คนอเมริกันเบื่อเต็มทนที่ถูกปกครองโดยกลุ่มคนเขลา

ทรัมป์ยังเรียกร้องให้ชนชั้นแรงงานในเมืองแมนเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ออกไปกาบัตรเพื่อสั่งสอนนักการเมืองทุจริต

ตัวแทนจากรีพับลิกันผู้นี้ ยังเดินทางไปยังนอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย ก่อนปิดการหาเสียงในเมืองแกรนด์ ราปิดส์ รัฐมิชิแกน

ส่วนคลินตันนั้น นอกจากฟิลาเดลเฟีย และเพนซิลเวเนียแล้ว ยังแวะมิชิแกน ก่อนปิดแคมเปญที่เมืองลารีห์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา


กำลังโหลดความคิดเห็น