เอเจนซีส์/เอเอฟพี - เดลีเทเลกราฟ สื่ออังกฤษรายงานล่าสุด ว่า ไนเจล ฟาราจ (Nigel Farage) เจ้าพ่อ BREXIT หัวหน้าพรรค UKIP อังกฤษ วางแผนจะเดินนำมาร์ชร่วมแสนคน เดินขบวน “ลาออกจากยุโรป” ไปฟังคำตัดสินของศาลสูงอังกฤษในวันที่ 5 ธันวาคม ล่าสุด เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่รัฐบาลอังกฤษได้มีความพยายามที่จะหยุดพรรคพวกเดียวกัน และสมาชิกรัฐสภาแดนผู้ดี ไม่ให้ทำให้การลาออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปล่าช้าออกไป
หนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟ รายงานวันนี้ (7 พ.ย.) ว่า การเดินขบวนครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมราว 100,000 คน ถูกจัดโดยองค์กรต่อต้านยุโรป หรือ “ลาออกจากยุโรป” (Leave.EU) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ จะมีจุดสิ้นสุดการเดินขบวนที่บริเวณจัตุรัสรัฐสภาอังกฤษ ซึ่งมีที่ตั้งของที่ทำการศาลสูงอังกฤษอยู่ไม่ห่าง ซึ่งจะเป็นสถานที่ผู้พิพากษารับฟังคำร้องอุทธรณ์ไต่สวน
และในการวางแผนขององค์กรต่อต้านยุโรป ทางหน่วยงานตั้งเป้าระดมทุนให้ได้ถึง 100,000 ปอนด์ จากกลุ่มผู้สนับสนุนเพื่อจ้างทนายความเป็นตัวแทนของสมาชิกกลุ่มในการปราฏำตัวต่อศาล สื่ออังกฤษชี้ และระบุว่า จะทำให้ทางสมาชิกกลุ่มต่อต้านยุโรปสามารถมีทนายความของตัวเองในคดีทางกฎหมายของคนเหล่านี้ ที่สามารถต่อสู้ทางกฎหมายกับฝ่ายตรงกันข้ามที่ไม่เห็นด้วยกับ BREXIT หรือแม้แต่กับรัฐบาลอังกฤษ
ฟาราจ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรครักษาการของพรรค UKIP และรวมไปถึงแกนนำคนสำคัญของ BREXIT มีกำหนดที่จะเป็นผู้เดินนำหน้าขบวนที่จะเคลื่อนออกจากจัตุรัสทราฟัลการ์ (Trafalgar Square) ไปตามไวท์ฮอล (Whitehall) จนถึงจัตุรัสรัฐสภาอังกฤษ
โดยโฆษกผู้จัดการเดินขบวนต้านยุโรป แถลงยืนยันว่า ฟาราจ รวมไปถึงมหาเศรษฐีชาวอังกฤษที่อยู่เบื้องหลัง BREXIT แอร์รอน แบงก์ส (Arron Banks) และ ริชาร์ด ทิซ (Richard Tice) ประสบความสำเร็จสามารถคว้าข้อตกลงการสนับสนุนจากผู้เข้าร่วม “ลาออกจากยุโรป” จำนวนมาก รวมไปถึงการดำเนินคดีทางกฎหมาย
หนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟ รายงานต่อว่า การเดินขบวนคาดว่าจะเริ่มขึ้นในวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการไต่สวนคดี ซึ่งทางศาลสูงอังกฤษกำหนดให้มีนัดไต่สวนทั้งหมดจำนวน 4 วัน ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา
ด้าน ฟาราจ ออกมาเตือนว่า ความพยายามใดๆ ก็ตาม ที่จะกลับมติที่ลงไว้โดยประชาชนชาวอังกฤษ จะทำให้สังคมอังกฤษโกรธแค้นที่ซึ่งจะไม่มีใครได้เคยพบเห็นมาก่อนในช่วงชีวิตของพวกเรา” ซึ่งนั่นอาจหมายความไปถึงการเกิดจลาจลบนท้องถนน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ในวันอาทิตย์ (6 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ ได้ออกมาเตือน ส.ส. อังกฤษ ไม่ให้ขัดขวาง BREXIT หลังจากก่อนหน้านี้ ศาลสูงอังกฤษได้ออกคำพิพากษา ระบุว่า เมย์ยังไม่สามารถเริ่มต้นกระบวนการลาออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปได้ หากรัฐสภาอังกฤษยังไม่ได้อนุมัติ
โดยเมย์ได้ออกแถลงถึงเรื่องนี้ในครั้งแรก หลังจากมีคำพิพากษาออกมาในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) ก่อนหน้านั้น ว่า “สมาชิกผู้แทนราษฎร และเพื่อน ส.ส. ที่ผิดหวังในผลการลงประชามติ จำเป็นต้องยอมรับในผลที่ได้ออกมาแล้วในสิ่งที่ประชาชนชาวอังกฤษได้เลือก”
ทั้งนี้ รัฐบาลพรรคคอนเซอร์เวตีฟ อังกฤษ ได้ยื่นร้องอุทธรณ์ต่อศาลสูงอังกฤษในการพิสูจน์ว่า รัฐสภาอังกฤษจำเป็นต้องอนุมัติในการที่รัฐบาลอังกฤษจะเริ่มต้นใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญากรุงลิสบอน ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นกระบวนการเจรจา BREXIT กับสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ
และคำตัดสินที่ออกมาส่งผลทำให้เกิดความไม่พอใจในกลุ่มผู้ให้การสนับสนุน BREXIT ท่ามกลางความคาดเดาว่าบรรดานักการเมืองฝ่ายยุโรปจะพยายามหาทางถ่วงเวลา BREXIT และขัดขวางแผนการของเมย์ในการเริ่มกระบวนการเจรจาลาออกที่จะเกิดขึ้นในสิ้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
เอเอฟพีรายงานต่อว่า ในขณะที่ผู้นำพรรคแรงงานอังกฤษ เจรามี คอร์บิน (Jeremy Corbyn) ซึ่งมีเสียงพรรคแรงงานในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ 231 จากทั้งหมด 650 ที่นั่ง ได้ออกมาให้ความเห็นว่า เขาจะไม่กลับมติผลการลงประชามติแต่อย่างใด แต่ทว่าสื่อแทบลอยด์อังกฤษ เดอะซันเดย์ มิร์เรอร์ ฉบับวันอาทิตย์ (6 พ.ย.) ได้ออกมารายงานว่า คอร์บินต้องการออกเสียงขัดขวางการเริ่มต้นใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญากรุงลิสบอน หากเมย์รับปากต่อหน้าสื่อที่จะทำให้อังกฤษยังคงสามารถเข้าสู่ตลาดเดียวยุโรปได้อย่างต่อไป และรวมไปถึงรับประกันในสิทธิแรงงานยุโรปหลังจาก BREXIT
แต่อย่างไรก็ตาม ในภายหลัง ผู้นำพรรคแรงงานอังกฤษ ออกมาอธิบายผ่านทางทวิตเตอร์ ว่า “เราจะไม่ขัดขวางมาตรา 50 แต่จะต่อสู้เพื่อ BREXIT ที่มีเงื่อนไขที่ดีสำหรับพลเมืองอังกฤษเท่านั้น”
เอเอฟพีรายงานต่อว่า คำตัดสินออกมาของศาลสูงอังกฤษ ทำให้มีการคาดการณ์ไปว่า เทเรซา เมย์ นายกรีฐมนตรีหญิงอังกฤษ อาจจะแก้ปัญหาโดยการประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในแรงสนับสนุนในสภาล่างอังกฤษก่อนการลงคะแนนออกเสียงในรัฐสภาเพื่อผ่านการรับรองการใช้มาตรา 50