รอยเตอร์ - รัฐบาลฝรั่งเศสมีแผนเพิ่มกำลังตำรวจและติดตั้งกล้องวงจรปิดตามสถานที่สำคัญ เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวเอเชียที่เข็ดขยาดกับการถูกปล้นชิงทรัพย์และการก่อวินาศกรรมจนส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเมืองน้ำหอมลดลง หนังสือพิมพ์รายวันเลอฟิกาโร รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (6 พ.ย.)
ฝรั่งเศสเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลก โดยปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปเยือนเมืองน้ำหอมมากถึง 85 ล้านคน ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็มีการจ้างแรงงานถึง 2 ล้านคน
บริษัททัวร์ต่างๆ คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลง 4-5% ในปีนี้ โดยเป็นผลสืบเนื่องจากเหตุโจมตีโดยกลุ่มอิสลามิสต์ โดยเฉพาะที่กรุงปารีสและเมืองนีซ (Nice) และอีกสาเหตุสำคัญก็คือการฉกชิงวิ่งราวที่นักท่องเที่ยวจากเอเชียมักตกเป็นเหยื่อ
นายกรัฐมนตรีมานูเอล วอลส์ ซึ่งจะเรียกประชุมคณะกรรมการฝ่ายการท่องเที่ยวในวันนี้ (7 พ.ย.) มีแผนอนุมัติงบประมาณ 43 ล้านยูโรเพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนเพื่อการโฆษณาและช่วยเหลือร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ ตามรายงานของเลอฟิกาโรซึ่งไม่เปิดเผยแหล่งข่าว
รัฐบาลฝรั่งเศสจะเสริมกำลังตำรวจและติดตั้งกล้องวงจรปิดตามสถานที่สำคัญๆ รวมถึงถนนทุกสายที่จะมุ่งไปสู่แหล่งท่องเที่ยวทั่วกรุงปารีส นอกจากนี้ จะมีการนำป้ายสัญลักษณ์ความปลอดภัยมาใช้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนสถานที่เหล่านั้นด้วย
บริษัทท่องเที่ยวต่างเรียกร้องให้ภาครัฐเพิ่มกำลังตำรวจเพื่อป้องกันการชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวจากเอเชีย ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามักจะพกเงินสดจำนวนมากๆ เพื่อซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย