เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - งานศึกษาชุดใหม่ชี้ ชาวฮ่องกง เป็นเจ้าของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิอย่างน้อย 10 ล้าน เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 320 ล้านบาท จำนวนมากที่สุดในโลก ส่วนประเภทคนรวยโดยรวม ฮ่องกงติดอันดับ 5 ของโลก
นิว เวิลด์ เวลธ์ (New World Wealth) บริษัทที่ปรึกษาชื่อดังของโจฮันเนสเบิร์ก ทำการจัดอันดับประเทศร่ำรวย โดยใช้ข้อมูลตัวเลขจากภาครัฐและฐานข้อมูลของบริษัทฯ ด้านสินค้าฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะงานศิลปะ เครื่องบินส่วนตัว อสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญ และเรือยอร์ช รวมทั้งสินทรัพย์ประเภทอื่น แต่ไม่นับรวมอยู่อาศัย
ทั้งนี้ จำนวนคนรวยที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิอย่างน้อย 10 ล้าน ในฮ่องกงมีมากถึง 15,400 คน ทำให้ฮ่องกงเขี่ยนิวยอร์ก ตกลงไปเป็นอันดับสอง 14,300 คน และทิ้งลอนดอนตามมาห่างๆ ที่ 9,700 คน
นอกจากนี้ ฮ่องกงยังติดอันดับ 5 ของการจัดอันดับจำนวนเศรษฐีโดยรวม เพราะมีประชากรถึง 211,700 คน ที่ถือครองสินทรัพย์สุทธิมากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราวๆ 32 ล้านบาท คิดเป็น 2.9 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด
ส่วนอังกฤษติดอันดับสูงสุดของโลกด้านจำนวนเศรษฐีโดยรวม ซึ่งมีมากถึง 395,600 คน ทว่า เวลธ์อินไซด์ (WealthInsight) บริษัทคู่แข่ง จัดอันดับไว้เมื่อปีที่แล้ว (2556) ว่า อังกฤษอยู่อันดับสาม ตามหลังโตเกียวและนิวยอร์ก
ด้าน แอนดรูว์ อโมลิส จากนิว เวิลด์ เวลธ์ ชี้ว่า ในรัสเซีย จำนวนผู้มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individuals หรือ HNWI) มีมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของคนรวยทั้งหมดในประเทศ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ มีบุคคลกลุ่มนี้เฉลี่ยเพียงแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า จำนวนมหาเศรษฐีทั่วโลก เพิ่มขึ้นถึง 71 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสิบปีที่แล้ว ส่วนคนระดับเศรษฐีก็เพิ่มถึง 58 เปอร์เซ็นต์
ปรากฏการณ์นี้อาจมีปัจจัยมาจากอัตราการไต่เต้าของคนระดับเศรษฐีไปสู่ระดับมหาเศรษฐีที่เพิ่มสูงขึ้น และช่องว่างความรวยจนที่กว้างมากขึ้นด้วย รายงาน ระบุ
ด้านการวิเคราะห์รายได้ต่อหัว พบว่า ซูริคและเจนีวา ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์อยู่ในอันดับสูงสุด ประชากรในเจนีวา 7.8 เปอร์เซ็นต์ และซูริค 5.8 เปอร์เซ็นต์ คือคนรวย ในขณะที่นิวยอร์คอยู่อันดับที่ 10 และมีคนรวยเพียง 1.6 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโดยรวม
อนึ่ง จำนวนเศรษฐี 13 ล้านคนและมหาเศรษฐีพันล้านอีก 495,000 คนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต้องหาคำนิยามอื่นมาจัดกลุ่มคนรวยเหล่านี้ โดย มหาเศรษฐี (Ultra-High Net Worth) หมายถึง บุคคลที่มีความมั่งคั่งเกิน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกิน 948 ล้านบาท) ส่วน อภิมหาเศรษฐี (Centimillionaires) คือ บุคคลที่มีความมั่งคั่งอย่างน้อย 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (3,200 ล้านบาท)
นิว เวิลด์ เวลธ์ (New World Wealth) บริษัทที่ปรึกษาชื่อดังของโจฮันเนสเบิร์ก ทำการจัดอันดับประเทศร่ำรวย โดยใช้ข้อมูลตัวเลขจากภาครัฐและฐานข้อมูลของบริษัทฯ ด้านสินค้าฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะงานศิลปะ เครื่องบินส่วนตัว อสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญ และเรือยอร์ช รวมทั้งสินทรัพย์ประเภทอื่น แต่ไม่นับรวมอยู่อาศัย
ทั้งนี้ จำนวนคนรวยที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิอย่างน้อย 10 ล้าน ในฮ่องกงมีมากถึง 15,400 คน ทำให้ฮ่องกงเขี่ยนิวยอร์ก ตกลงไปเป็นอันดับสอง 14,300 คน และทิ้งลอนดอนตามมาห่างๆ ที่ 9,700 คน
นอกจากนี้ ฮ่องกงยังติดอันดับ 5 ของการจัดอันดับจำนวนเศรษฐีโดยรวม เพราะมีประชากรถึง 211,700 คน ที่ถือครองสินทรัพย์สุทธิมากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราวๆ 32 ล้านบาท คิดเป็น 2.9 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด
ส่วนอังกฤษติดอันดับสูงสุดของโลกด้านจำนวนเศรษฐีโดยรวม ซึ่งมีมากถึง 395,600 คน ทว่า เวลธ์อินไซด์ (WealthInsight) บริษัทคู่แข่ง จัดอันดับไว้เมื่อปีที่แล้ว (2556) ว่า อังกฤษอยู่อันดับสาม ตามหลังโตเกียวและนิวยอร์ก
ด้าน แอนดรูว์ อโมลิส จากนิว เวิลด์ เวลธ์ ชี้ว่า ในรัสเซีย จำนวนผู้มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individuals หรือ HNWI) มีมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของคนรวยทั้งหมดในประเทศ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ มีบุคคลกลุ่มนี้เฉลี่ยเพียงแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า จำนวนมหาเศรษฐีทั่วโลก เพิ่มขึ้นถึง 71 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสิบปีที่แล้ว ส่วนคนระดับเศรษฐีก็เพิ่มถึง 58 เปอร์เซ็นต์
ปรากฏการณ์นี้อาจมีปัจจัยมาจากอัตราการไต่เต้าของคนระดับเศรษฐีไปสู่ระดับมหาเศรษฐีที่เพิ่มสูงขึ้น และช่องว่างความรวยจนที่กว้างมากขึ้นด้วย รายงาน ระบุ
ด้านการวิเคราะห์รายได้ต่อหัว พบว่า ซูริคและเจนีวา ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์อยู่ในอันดับสูงสุด ประชากรในเจนีวา 7.8 เปอร์เซ็นต์ และซูริค 5.8 เปอร์เซ็นต์ คือคนรวย ในขณะที่นิวยอร์คอยู่อันดับที่ 10 และมีคนรวยเพียง 1.6 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโดยรวม
อนึ่ง จำนวนเศรษฐี 13 ล้านคนและมหาเศรษฐีพันล้านอีก 495,000 คนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต้องหาคำนิยามอื่นมาจัดกลุ่มคนรวยเหล่านี้ โดย มหาเศรษฐี (Ultra-High Net Worth) หมายถึง บุคคลที่มีความมั่งคั่งเกิน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกิน 948 ล้านบาท) ส่วน อภิมหาเศรษฐี (Centimillionaires) คือ บุคคลที่มีความมั่งคั่งอย่างน้อย 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (3,200 ล้านบาท)
