เอเอฟพี - เครื่องบินลำเลียงพร้อมลูกเรือ 4 คนสูญหายไปในเขตภูเขาทางภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย ระหว่างทำการบินระยะสั้นๆ วันนี้ (31 ต.ค.) ซึ่งอาจกลายเป็นอุบัติเหตุทางการบินครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในแดนอิเหนา
กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียแถลงว่า เครื่องบินคาริบูลำนี้ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการบินระหว่างขนส่งสิ่งของไปยังที่หมายในจังหวัดปาปัว ซึ่งควรจะใช้เวลาเดินทางไม่เกินครึ่งชั่วโมง
อากาศยานลำนี้เป็นทรัพย์สินของหน่วยงานท้องถิ่น และถูกใช้งานโดยบริษัท อัลฟา ทรานส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านคมนาคมและขนส่งสินค้า
นักบินได้นำเครื่องออกจากเมืองติมิกา (Timika) เมื่อเวลา 07.57 น.วันนี้ (31 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น มุ่งหน้าไปยังเมืองอิลากา (Ilaga) ซึ่งเป็นเขตเกษตรกรรมที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูง
ศูนย์ควบคุมการบินได้รับการติดต่อครั้งสุดท้ายในเวลา 08.23 น. โดยนักบินแจ้งว่ากำลังจะลงจอดในอีกไม่กี่นาที ทว่า ท้ายที่สุดเครื่องบินลำนี้กลับไปไม่ถึงจุดหมาย
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เครื่องบินลำนี้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมาจากบริเวณรอยต่อระหว่างช่องเขา 2 แห่ง
“เครื่องบินลำนี้เป็นทรัพย์สินของฝ่ายบริหารเขตปุนจะก์ (Puncak) และถูกใช้เพื่อขนส่งสิ่งของของหน่วยงานนี้” บัมบัง เออร์แวน โฆษกกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียแถลง โดยไม่ได้ระบุว่าสภาพอากาศในพื้นที่ขณะนั้นเป็นอย่างไร
สื่ออิเหนารายงานว่า สิ่งของบนเครื่องบินลำนี้ยังรวมถึงวัสดุก่อสร้างด้วย
กระทรวงคมนาคมระบุว่าได้มีการตั้งทีมค้นหาแล้ว โดยลูกเรือทั้ง 4 คนที่สูญหายล้วนเป็นชาวอินโดนีเซีย
เครื่องบินลำนี้อยู่ในตระกูล คาริบู ดีเอชซี-4 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำเลียงระยะสั้นที่ใช้พื้นที่ไม่มากในการขึ้นและลงจอด เหมาะสำหรับภูมิประเทศที่เป็นลอนลาดขรุขระ
อินโดนีเซียมีประวัติความปลอดภัยการบินที่ค่อนข้างย่ำแย่ และเคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงมาแล้วหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนจังหวัดปาปัวก็เป็นพื้นที่ซึ่งยากต่อการทำการบิน เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาสูงและอากาศแปรปรวนบ่อย
เดือน ส.ค.ปีที่แล้ว เครื่องบินโดยสารของสายการบินตรีกานา (Trigana) ก็ประสบอุบัติเหตุตกในบริเวณเดียวกันนี้ เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 54 คนเสียชีวิตยกลำ