เอเอฟพี - ศพชุดแรกจากผู้เสียชีวิตทั้งหมด 54 คน ในโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกทางภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย ได้รับการเคลื่อนย้ายออกจากจุดที่เครื่องประสบอุบัติเหตุแล้วในวันพุธ (19 ส.ค.) หลังจากก่อนหน้านี้สภาพอากาศเลวร้ายเป็นอุปสรรคขัดขวางการลำเลียงศพทางอากาศไปยังเมืองเอกของจังหวัดปาปัว
เจ้าหน้าที่เปิดเผยด้วยว่า ทีมกู้กัยยังคงตามหากล่องดำอีกกล่องของเครื่องบิน ATR 42-300 ของสายการบินตริกานาแอร์ ซึ่งเป็นกล่องบันทึกข้อมูลการบิน หลังเบื้องต้นมีรายงานว่าพบกล่องดำครบทั้ง 2 กล่องแล้ว
หน่วยกู้ภัยและชาวบ้านหลายร้อยคนช่วยกันนำร่างไร้วิญญาณ 17 ศพ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อเครื่องบินเส้นทางระยะใกล้ประสบอุบัติเหตุตกท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายในวันอาทิตย์ (16 ส.ค.) ฝ่าป่าทึบและทางลาดชันในจังหวัดปาปัว ลงมาสู่เบื้องล่าง และหลังจากการลำเลียงอันทรหดและยาวนาน ศพเหล่านั้นก็ถูกส่งไปถึงเมืองอ็อกซิบิล อันเป็นจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินลำดังกล่าว
เจ.เอ.บาราตา โฆษกของกระทรวงคมนาคมบอกกับเอเอฟพี ว่า ในจำนวนดังกล่าว มีอยู่ 4 ศพที่ถูกลำเลียงทางอากาศต่อไปยังจายาปุระ เมืองเอกของจังหวัดปาปัวแล้ว ส่วนอีก 13 ศพ ยังคงอยู่ในโรงพยาบาลท้องถิ่น ขณะที่ความพยายามกู้ศพผู้เสียชีวิตที่เหลือ ณ จุดเกิดเหตุได้ถูกระงับตอนค่ำคืนและภารกิจจะเริ่มใหม่อีกครั้งในตอนเช้าวันพฤหัสบดี (20 ส.ค.)
เดิมทีเจ้าหน้าที่หวังว่าจะใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงศพลงจากจุดเกิดเหตุ แต่ด้วยสภาพอากาศอันเลวร้ายทำให้อันตรายเกินไปที่จะบินเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวในวันพุธ (19 ส.ค.)
เบื้องต้นมีรายงานว่ากล่องดำทั้งสอง ได้แก่ กล่องบันทึกข้อมูลการบินและกล่องบันทึกเสียงสนทนาในห้องนักบิน ถูกพบแล้วในซากหักพังของเครื่อง ทว่า บาราตา บอกว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่พบกล่องบันทึกข้อมูลการบิน
โศกนาฏกรรมคราวนี้เป็นเพียงหนึ่งในอุบัติเหตุทางอากาศหนล่าสุดจากหลายต่อหลายครั้งที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย ประเทศที่มีประวัติความปลอดภัยด้านการบินอันย่ำแย่และต้องประสบหายนะใหญ่หลวงบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงอุบัติเหตุเครื่องบินแอร์เอเชียตกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน คร่าชีวิตผู้คน 162 ศพ
ทีมช่วยเหลือต้องใช้เวลาถึง 2 วันกว่าจะเข้าถึงจุดตกที่อยู่ห่างจากเมืองอ็อกซิบิล ราว 15 กิโลเมตร หลังจากความพยายามในเบื้องต้นถูกขัดขวางด้วยสภาพภูมิประเทศที่แสนยากลำบากและสภาพอากาศอันเลวร้าย โดยพวกเขาพบเศษซากไหม้เกรียมของเครื่องบินใบพัดคู่กระจัดกระจายไปทั่ว เช่นเดียวกับศพผู้โดยสาร 49 ศพและลูกเรืออีก 5 ศพ
สำหรับเงินสดจำนวน 6,500 ล้านรูเปียห์ (ราว 470,000 ดอลลาร์) ซึ่งเครื่องบินลำนี้บรรทุกมาด้วย เพื่อเตรียมนำไปแจกจ่ายให้ครอบครัวยากจนตามมาตรการชดเชยการขึ้นราคาเชื้อเพลิงนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็พบแล้วเช่นกัน โดยที่บางส่วนอยู่ในสภาพถูกเผาไหม้เกรียม
เจ้าหน้าที่สืบสวน 3 คนจากสำนักงานสืบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของฝรั่งเศส (บีอีเอ) และที่ปรึกษาทางเทคนิค 4 คนจากเอทีอาร์ บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์ที่มีสำนักงานใหญ่ในยุโรป กำลังมุ่งหน้าสู่อินโดนีเซีย เพื่อตรวจสอบอุบัติเหตุคราวนี้
เครื่องบินใบพัดคู่ ลำที่ประสบอุบัติเหตุนี้ เป็นของสายการบินตริกานา แอร์ เซอร์วิส ได้ออกเดินทางจากจาราปุยะมุ่งหน้าสู่เมืองอ็อกซิบิล ซึ่งก็อยู่ในเขตจังหวัดปาปัว โดยตามตารางบินกำหนดระยะเวลาไว้ 42 นาที ทว่าก่อนถึงจุดหมายเพียง 10 นาที เครื่องบินได้ขาดการติดต่อขณะกำลังลดระดับท่ามกลางหมอกหนาและพายุฝน ด้วยทางสายการบินบอกว่าต้นตอของอุบัติเหตุคราวนี้น่าจะมาจากสภาพอากาศเลวร้าย
ปาปัวเป็นจังหวัดที่อยู่ด้านตะวันออกสุดของอินโดนีเซีย พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าเขา ซึ่งเข้าถึงยาก และเป็นสาเหตุที่ทำให้ในอดีตที่ผ่านมาไม่สามารถค้นหาเครื่องบินบางลำที่ตกในบริเวณนี้
ส่วน ตริกานาแอร์ เป็นสายการบินภายในขนาดเล็กของอินโดนีเซีย ซึ่งเคยประสบเหตุเลวร้ายมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง และถูกห้ามบินเข้าน่านฟ้าของสหภาพยุโรป