เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / MGR online - นายกรัฐมนตรี ซิกูร์ดูร์ อินกิ โยฮันส์สัน แห่งไอซ์แลนด์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันอาทิตย์ (30 ต.ค.) ภายหลังจากผลการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งถูกจัดขึ้นก่อนกำหนดบ่งชี้ว่าพรรคการเมืองสายกลางของเขาอย่าง “โปรเกรสซีฟ ปาร์ตี้” ประสบกับความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ในการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในวันเสาร์ (29) โดยคว้าที่นั่งในรัฐสภามาครองได้เพียง 8 ที่นั่ง จากทั้งหมด 63 ที่นั่งที่มีการชิงชัย ลดลงจากการเลือกตั้งคราวก่อนที่พรรคนี้เคยได้ถึง 19 ที่นั่ง
นอกเหนือจากความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของพรรคโปรเกรสซีฟ ปาร์ตี้ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีโยฮันส์สันแล้ว ผลการเลือกตั้งทั่วไปในดินแดนแห่งธารน้ำแข็งและภูเขาไฟทางตอนเหนือของยุโรปแห่งนี้ยังจบลงในแบบที่ไม่มีพรรคการเมืองพรรคใดที่คว้าที่นั่งในรัฐสภาไปครองเสียงข้างมากได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด นำไปสู่ความตึงเครียดในการเจรจาเพื่อจับมือกันตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่ต้องอยู่ในรูปของ “รัฐบาลผสม”
รายงานข่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรี ซิกูร์ดูร์ อินกิ โยฮันส์สัน แถลงถึงการลาออกของตน แต่ยืนยันว่าตนเองจะต้องอยู่ครองอำนาจต่อไปในฐานะผู้นำของรัฐบาลรักษาการตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ จนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่และรัฐบาลชุดใหม่เข้ามารับช่วงต่อ
ด้านประธานาธิบดี กุ๊ดนี โยฮันเนสสัน ในฐานะประมุขสูงสุดของไอซ์แลนด์ตามกฎหมายถูกระบุว่า เตรียมเปิดทางให้กับบียาร์นี เบเนดิคต์สัน รัฐมนตรีคลังของประเทศได้สิทธิในการเป็นผู้นำการเจรจาตั้งรัฐบาลชุดใหม่เป็นลำดับแรก ภายหลังจากที่พรรคการเมือง “อินดีเพนเดนซ์ ปาร์ตี้” ที่เป็นพรรคการเมืองสายอนุรักษนิยมของเขาคว้าที่นั่งมาได้ 21 ที่นั่งจากการเลือกตั้งในวันเสาร์ (29) ซึ่งถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่ได้จำนวนที่นั่งสูงที่สุดจากการเลือกตั้งคราวนี้
สื่อท้องถิ่นระบุว่า เบเนดิคต์สัน และพรรคอินดีเพนเดนซ์ ปาร์ตี้ อาจจำเป็นต้องยอมเปิดการเจรจาตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคการเมืองที่มีจุดยืนต่อต้านกฎหมายลิขสิทธิ์แบบสุดโต่งอย่าง “ไพเรต ปาร์ตี้” หรือที่ถูกขนานนามว่า “พรรคโจรสลัด” รวมถึงบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายขนาดเล็กอื่นๆ ที่กวาดที่นั่งรวมกันได้ 27 ที่นั่งในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาไอซ์แลนด์คราวนี้
ทั้งนี้ การเลือกตั้งทั่วไปในไอซ์แลนด์ที่ถูกจัดขึ้นในวันเสาร์ (29) ถือเป็นการเลือกตั้งที่ต้องถูกจัดขึ้นก่อนกำหนด ภายหลังจากที่รัฐบาลผสมชุดก่อนภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ซิกมุนดูร์ ดาวิด กุนน์ลักส์สัน ถูกบีบให้สละอำนาจ สืบเนื่องจากข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีหลบเลี่ยงภาษีสุดอื้อฉาว “ปานามา เปเปอร์ส” ที่กลายเป็นข่าวดังสะเทือนโลกไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา